ความหมายของสวรรค์ในพระไตรปิฎก

 



ความหมายของสวรรค์ในพระไตรปิฎก

สวรรค์ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เป็นที่แห่งความสุข ความดี ทุกคนจึงต้องการที่จะไปเสวยสุขในสวรรค์กันทั้งนั้น มีผู้รู้หลายท่านได้กล่าวถึงความหมาย ดังนี้

พระเทพมุนี (วิลาศ  ญาณวโร) (2527: 525) กล่าวถึงความหมายของสวรรค์ว่า สวรรค์ หมายถึง เทวโลกหรือแดนสุขาวดี กล่าวคือ โลกที่เต็มไปด้วยความสุขล้วนๆ โลกที่ปราศจากความทุกข์ ความเดือดร้อนโดยสิ้นเชิง โลกที่เต็มไปด้วยความสุขในโลกียารมณ์ โลกทิพย์ที่อยู่อาศัยของพวกมีกายทิพย์หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เทวภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่ของผู้เพลิดเพลินสนุกสนานไปด้วยเบญจพิธกามคุณารมณ์

พระราชวรมุนี (ประยุทธ์  ปยุตฺโต) (2528: 306) กล่าวว่า สวรรค์ หมายถึง แดนอันดีเลิศ ภพที่เลิศด้วยกามคุณ 5 หรือโลกที่มีแต่ความสุข โลกของเทวดา โดยทั่วไปแล้ว หมายถึง กามาพจรสวรรค์ คือ สวรรค์ที่ยังต้องเกี่ยวข้องอยู่กับการเสพกามคุณ

พระบาฬีลิปิกรม (2532: 1647) ได้ให้ความหมายของสวรรค์ว่า สวรรค์ คือ ที่อันเลิศด้วยสมบัติทั้งหลาย มีรูป เป็นต้น กล่าวคือ โลกที่ล้ำเลิศสมบูรณ์พูนสุขด้วยกามคุณ 5

พุทธทาสภิกขุ (2541: 41) กล่าวว่า สวรรค์ หมายถึง โลกของผู้เสวยกามารมณ์ และสุขเวทนาที่เลิศ กล่าวคือ ผู้อาศัยอยู่ในโลกนี้ยังมีการเสพกาม และเสวยเวทนา ด้วยอายตนะทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ดุจเดียวกับมนุษย์โลก เพียงแต่บัญญัติให้ประณีต และดีกว่าเท่านั้น แต่ก็จัดเป็นโลกิยวิสัย เพราะยังติดอยู่ในเกลียวของวัฏฏสงสาร

พระเทพวิสุทธิกวี (พิจิตร  ฐิตวณฺโณ) (2542: 19) ให้ความหมายคำว่า สวรรค์ หมายถึง สถานที่เพลิดเพลิน รื่นเริง มีความสุข โดยให้ความหมายไว้สองนัย คือ ผู้ที่เกิดในสถานที่เพลิดเพลิน รื่นเริงบันเทิง ชื่อว่า เกิดในสวรรค์ และจิตใจของผู้ใดมีความเพลิดเพลิน บันเทิง มีความสุข ผู้นั้นชื่อว่า ได้อยู่บนสวรรค์

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน (2546: 1143) นิยามคำว่า สวรรค์ไว้ คือ โลกของเทวดา เมืองฟ้า ซึ่งสมบูรณ์พูนสุข ด้วยความสะดวกสบายที่ดีเลิศ

จากความหมายที่ท่านผู้รู้ทั้งหลายได้กล่าวไว้ สามารถสรุปได้ว่า สวรรค์ หมายถึง โลกอีกโลกหนึ่งที่เพียบพร้อมไปด้วยกามสุขทั้ง 5 หรือสถานที่อยู่ของเทวดาทั้งหลายในสวรรค์ชั้นกามาพจร ยังมีสวรรค์ชั้นรูปพรหม และอรูปพรหมอีก

ประเภทของสวรรค์ในพระไตรปิฎก สวรรค์ในพระไตรปิฎกนั้น ก็เป็นไปตามภูมิหรือบุญกรรมที่ได้ทำไว้ในครั้งยังเป็นมนุษย์ซึ่งแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 สวรรค์ชั้นกามาวจร 6 ชั้น ซึ่งมีข้อความที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในจูฬนีสูตร คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี (อัง.ติ. 20/275)

สวรรค์ชั้นกามาวจรมี 6 ชั้นเป็นสวรรค์ประเภทที่ 1 คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี

ส่วนประเภทที่ 2 นั้นเป็นสวรรค์ชั้นรูปาวจร ปรากฎข้อความในสังขารูปปัตติสูตรว่า

สวรรค์ชั้นรูปาวจรปฐมฌาน 3 ชั้น คือ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา มหาพรหมา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรทุติยฌาน 3 ชั้น คือ ปริตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรตติยฌาน 3 ชั้น คือ ปริตตสุภา อัปปมาณสุภา สุภกิณหา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรจตุตถฌาน 7 ชั้น คือ เวหัปผลา อสัญญสัตว์ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฎฐา (ม.อุ. 14/192-198)

สวรรค์ชั้นรูปาวจรมี 16 ชั้น เป็นสวรรค์ประเภทที่ 2 โดยที่ขั้นปฐมฌานมี 3 ชั้น คือ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา มหาพรหมา, ขั้นทุติยฌานมี 3 ชั้น คือ ปริตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา, ขั้นตติยฌานมี 3 ชั้น คือ ปริตตสุภา อัปปมาณสุภา สุภกิณหา, ขั้นจตุตถฌานมี 7 ชั้น คือ เวหัปผลา อสัญญสัตว์ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฎฐา

สวรรค์ชั้นอรูปภูมิเป็นสวรรค์ประเภทที่ 3  มี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ มีข้อความที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในอาเนญชสูตรว่า

. . . อากาสานัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า “อากาศไม่มีที่สุด” . . . หลังจากตายแล้วเข้าถึง. . .ชั้นอากาสานัญจายตนะ . . . แล้วปรินิพพานในภพนั้นแล . . . (องฺ.ติก. (ไทย) 20/117/359), . . . วิญญาณัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า “วิญญาณไม่มีที่สุด” . . . หลังจากตายแล้วเข้าถึง. . .ชั้นวิญญาณัญจายตนะ . . . สิ้นอายุ. . . แล้วปรินิพพานในภพนั้นแล . . ., . . . อากิญจัญญายตนฌานโดยกำหนดว่า “ไม่มีอะไร” อยู่ . . . หลังจากตายแล้วเข้าถึง. . .ชั้นอากิญจัญญายตนะ . . . ดำรงอยู่ในชั้นอากิญจัญญายตนะนั้นจนสิ้นอายุ . . . ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาคดำรงอยู่ในชั้นอากิญจัญญายตนะนั้นจนสิ้นอายุ . . . (องฺ.ติก. (ไทย) 20/117/360), . . .อากาสานัญจายตนฌานว่าเป็นอากาสานัญจายตนฌาน ในวิญญาณัญจายตนฌานว่าเป็นวิญญาณัญจายตนฌาน ในอากิญจัญญายตนฌานว่าเป็นอากิญจัญญายตนฌาน ในเนวสัญญานาสัญญายตนฌานว่าเป็นเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ในโลกนี้ว่าเป็นโลกนี้ ในโลกหน้าว่าเป็นโลกหน้า แต่ต้องมีสัญญา(องฺ.ทสก. (ไทย) 24/6/10)

อรูปภูมิเป็นสวรรค์ประเภทที่ 3  มี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

สรุปแล้วว่า ประเภทของสวรรค์ในพระไตรปิฎกนั้นมี 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 สวรรค์ชั้นกามาวจร 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี ส่วนประเภทที่ 2 นั้นเป็นสวรรค์ชั้นรูปาวจร ปฐมฌาน 3 ชั้น คือ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา มหาพรหมา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรทุติยฌาน 3 ชั้น คือ ปริตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรตติยฌาน 3 ชั้น คือ ปริตตสุภา อัปปมาณสุภา สุภกิณหา, สวรรค์ชั้นรูปาวจรจตุตถฌาน 7 ชั้น คือ เวหัปผลา อสัญญสัตว์ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฎฐา และสวรรค์ชั้นอรูปภูมิเป็นสวรรค์ประเภทที่ 3  มี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

------------------------------------------------------

เอกสารและสิ่งอ้างอิง

พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.  2539.  กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง.  2521.  กรุงเทพมหานคร: กรมศาสนา.

พระราชวรมุนี (ประยุทธ์  ปยุตฺโต).  2528.  พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์.

กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระเทพวิสุทธิกวี (พิจิตร  ฐิตวณฺโณ).  2542.  พรรณนาสวรรค์.  กรุงเทพมหานคร:

โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.

พุทธทาสภิกขุ.  2541.  คู่มือมนุษย์ ฉบับสมบูรณ์.  กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สุขภาพใจ.

พระเทพมุนี (วิลาศ  ญาณวโร).  2527.  วรรณกรรมไทยเรื่องภูมิวิลาสินี.  กรุงเทพมหานคร:

โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม.

พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตสถาน.  2542. กรุงเทมหานคร: สำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค. 

พระบาฬีลิปิกรม.  2532.  กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โลกทัศน์ทางพุทธศาสนา

ยกยอ เหมาหลงน้ำยมบ้านดู่ ►Fishing lifestyle Ep.755#HTML