Sbírka 6 druhů chleba, které Korejci milují Korejský dezert

ใส่เบ็ดเหยื่อไส้เดือน เหยื่อเขียด น้ำใหม่ หมานๆ มีแต่ปลาเนื้อดี แถมเจอผึ...

ยกยอ หมานเหมือนเดิม ►Fishing lifestyle Ep.515

ยกยอมืด ยันเที่ยงคืน ►Fishing lifestyle Ep.513

คอลเลคชั่นเบอร์เกอร์โฮมเมดสไตล์เกาหลี | อาหารเกาหลี

พาเมียไปหว่านแห/ หากินในน้ำยามหน้าฝนตามชีวิตบ้านนา EP.200

เข้าป่าหาน้ำผึ้งจากธรรมชาติ,น้ำผึ้งเดือน 5 คือน้ำผึ้งที่ดีที่สุดตามความเ...

ไปตัดหญ้ากับพ่อแม่ของเพื่อนสักวัน

วิธีทำเนื้อสัตว์ที่อุณหภูมิสูง | อาหารเกาหลี

เข้าป่าตามหาน้ำผึ้งสดเก็บสะสมไว้กินช่วงหน้าแล้ง![AKHA NOI]

ร้านสเต็กหลากหลายบรรยากาศในเกาหลี | อาหารเกาหลี

เข้าป่าล่ารังต่อมาทำอาหาร.![AKHA NOI]

ผจญภัยเอาชีวิตรอดในป่าลึกตอนกลางคืน..โหดจัดเจอแต่สัตว์มีพิษ.!

สารคดี สำรวจโลก ตอน หมึกยักษ์จากต่างดาว

언제까지 생고기만 먹을꺼야? 치즈맛 나는 고기로 유명한 30년 경력 장인의 드라이에이징 숙성 고기집┃Dry-Aged Mature ...

งูสามเหลี่ยม.!อสรพิษแห่งภูเขา[อาข่าน้อย]

เข้าถ้ำตามหาเม่นยักษ์.![อาข่าน้อย]

การผลิตจำนวนมากที่น่าทึ่ง! ทำไส้กรอกเลือด - โรงงานอาหารเกาหลี

ยกยอ น้ำหลากที่รอคอย ►Fishing lifestyle Ep.512

오픈 1년만에 월매출 1억 돼지고기? 30인분만 한정판매하는 찰살로 유명한 육즙 터지는 고기집┃charcoal-grilled po...

เก็บผลไม้ป่าบนภูเขากับเจ้าลิงน้อย.![ອາຄານ້ອຍ]

ขนาดน่าทึ่ง! บาร์บีคิวหมู / อาหารข้างทางเกาหลี

มีอะไรในก่อไผ่

주5일 문 여는데 하루 400대 팔리는 통갈비?? 막노동한 목돈으로 직접 벽돌쌓은 사장님! 역대급 경치의 줄서서 먹는 매장┃Kor...

ยกยอ นางงามหมานดุก ►Fishing lifestyle Ep.522

ทุเรียนภูเขาไฟ เผาไฟ

25평 매장에서 연매출 10억 대박 햄버거? 푸드트럭부터 시작해서 하루 500개도 팔리는 미국 인앤아웃 스타일 햄버거┃IN-N-O...

วิถีชีวิตคนดอย หาเห็ดในป่าดงดิบ ได้เยอะมาก//ເຂົ້າປ່າຫາເຫັດແດງ

ป่า ตามใจตัวเอง

มาดูวิดีโอของช่างฝีมือสตรีทฟู้ดของเกาหลีกันเลย! TOP 21 / korean street ...

นาป๋าเดช กข.41 พวง 7 ไร่ 6 เกวียนกว่าพอได้แกง

大阅兵中国女兵风采(1984──2019) Chinese Female Soldiers Marching in Military Parades

ถางหญ้าสวนอ้อย ขุดมันต้นช่วงฤดูฝน - YUB AVERN

ບ້ານບໍໂພນຕິ້ວ บรรยากาศ ในหมู่บ้าน บ่โดนติว เมิองหีนบูน

ЖЕНСКИЕ ВОЙСКА КИТАЯ ★ 中国女子军 ★ WOMEN'S TROOPS OF CHINA ★ 中國女兵

ไม่คิดจะเยาะขนาดนี้ เก็บเห็ดปลวกทีไร่ | Collecting termite mushrooms at ...

งานบุญบ้านอาเวิน (เผ่ากะตู) ปีละครั้ง ปัจจุบันหาดูยากมากฯ | ບຸນເອົາເຂົ້າ...

ยกยอ ปลาสังกะวาด ►Fishing lifestyle Ep.526

ออกสำรวจ หาผึ้ง หามิ้ม ดูรังต่อ ตีมิ้มรังใหญ่ น้ำหวานเต็มดี โซนนี้ไม่มีผ...

เก็บผลไม้ป่ามากินแทนข้าวแบบโบราณ | Collect wild fruits to eat instead of...

หมู่บ้านลึกลับในลาว ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีห้องน้ำ - YUB AVERN | ...

หากินตามธรรมชาติ ขุดจี้กุ่ง 🦗🦗ในทุ่งนา ตัวใหญ่สุดๆค่ะ#น้องหอมท่าเดื่อ #ข...

คนในชนบทช่อมถนนเพื่อรถเข้าหมู่บ้านลึกลับได้ช่วงฤดูฝน | People in rural L...

ในเมืองก็ทำไร่ปลูกข้าวด้วยหรือครับ🙄 - YUB AVERN

แผงขายอาหารพลุกพล่าน ต็อกปกกี เค้กปลา และซันแด - อาหารข้างทางของเกาหลี

รีวิวหมู่บ้าน บ้านอาเวิน ที่หลายๆคนหาดูยากมากฯ | ພາມາເບິ່ງຫມູ່ບ້ານ ບ້ານອ...

เข้าป่าล่าสัตว์หายิงนกช่วงหน้าหนาวมาทำอาหาร[AKHA NOI]

ความสุขเล็กๆ ของคนชาวไร่ | Farmer's happiness - YUB AVERN | ຊາວໄຮ່ - ຍັບ...

ປູກຜັກຫອມບົວແດງຢູ່ນາ//ปลูกหอมแดง

ใช้ชีวิตอยู่ในป่าตอนกลางคืน หาอยู่หากินจะเจอตัวอะไรบ้าง[AKHA NOI]

สัปเหร่อขอลองขับเองสายแตกเลย

เอาหมาไปล่าสัตว์ช่วงหน้าฝนในป่าลึกได้แลนภูเขา-อาข่าน้อย

เก็บเกี่ยวข้าวไร่ยามหน้าฝนแบบดังเดิม - YUB AVERN

ແຕ່ງກິນຖ້າແມ່//แต่งกินรอแม่กลับมา

เข้าป่าล่าสัตว์เอาหมาไปล่าตัวแลน(ตะกวด)-AKHA NOI

เข้าป่าหาขุดอ้นยักษ์มาทำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์.[AKHA NOI]

ร้านบะหมี่เกาหลีชื่อดังขายวันละ 1,000 ชาม !! / อาหารเกาหลี

วิธีทำข้าวมันต้น ฝีมือแม่ทำ แบบของคนเผ่ากะตู | Happy family! eat cassava...

ชีสเบคอนกิมจิโรล - สตรีทฟู้ดเกาหลี

เข้าป่าส่องดูสัตว์ตอนกลางคืนหลังฝนตก.![AKHA NOI]

หาเก็บดอกไม้ป่ามาทำอาหาร..!มันกินได้จริงหรอ.?[AKHA NOI]

เอาชีวิตรอดในป่า หาผลไม้ป่า | survival in the forest - YUB AVERN

วิดีโอของเจ้าของต่างๆที่เริ่มทำร้านอาหารตั้งแต่อายุยังน้อย TOP 14 / Kor...

วิดีโอของเจ้าของต่างๆที่เริ่มทำร้านอาหารตั้งแต่อายุยังน้อย TOP 14 / Kor...

ผจญภัยในป่าตามหาต้นกำเนิดของแม่น้ำ[AKHA NOI]

นี่แหละสีจริงของคิตตี้​ จะเลียนแบบใครรึเปล่า

한달 3000마리씩 팔리는 캡슐 구이? 포장할때 토기까지 주는 기발한 오리집┃Roasted duck in ocher jar / K...

ปลีกล้วยป่าดิบกับแจ่วพริกดิบ อะร่อยมากฯ ต้องดูทำยังไงถืงอะร่อย | surviva...

ข้าวมันไก่นึ่งในหม้อดิน - อาหารริมถนนของมาเลเซีย

คอลเลกชั่นอาหารในตลาดดั้งเดิม, ต็อกปกกี, ไก่, ฟิชเค้ก | อาหารเกาหลีริมทาง

กินข้าวป่า ( ข้าวมันต้น ) กินกับเนื้อนกอะร่อยมากฯ - YUB AVERN | ກິນເຂົ້າປ່າ

เจอป่วนเข้าไปตีฟางให้ตาลือกินขี้555

เข้าป่ายิงนกกินน้ำไช้หน้าไม้ยีงสุดยอดมาก EP.197

เจอป่วนเข้าไปตีฟางให้ตาลือกินขี้555

먹자골목에서 손님 최고 많은 닭갈비집? 숨쉬는 항아리로 유명한! 월 2톤씩 팔리는 줄서서 먹는 매장┃Jar spicy grille...

หมู่บ้านโบราณ ชนเผ่าลาวเทิง หาดูได้ยากมากฯ - YUB AVERN

สะบายดีตอนเช้า พาลูกน้อยเลาะสวน อีก 1 เดือน ได้ลูกสาวอีกคนเด้อพี่น้อง

มาเอฟต้นไม้กัน😅😅

ເລາະຢາມເບັດຕາມລຳຫ້ວຍ//เลาะยามเบ็ดตามลำห้วย Dong Una

하루 매출만 800만원이라는 처음보는 한식? 18시간 고인돌 왕갈비로 유명한! 역대급 줄서서먹는 최강 인싸 맛집┃Marinated...

ขายไก่ทอดเกาหลีรสเผ็ดกว่า 100 กก

ว่างๆทำขนมหวานกิน กับ สาวอาข่า🇱🇦

ข้าวผัดไข่น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล จาจังมยอน พริกแดงเผ็ด - อาหารเกาหลี

ข้าวผัดไข่ & ข้าวไข่เจียวปู - ร้านอาหารแบบโบราณ - อาหารญี่ปุ่นริมทาง

คนเบิกทาง : กุ๊ดจี่หน่อไม้ วิถีคนอีสาน

สักสุ่ม น้ำลึก เเก่โคล่นปลาไพร เเกงสายบัวกินข้าวป่า / บ้านนอก EP.370

พักรีสอร์ท 50 ล้าน พักได้คนเดียว คนเบิกทาง

จารย์เอกประชันกับตาลืองานนี้มีมันส์เกี่ยวไปฝนลงเม็ดไป

ตุ๋นเอ็นติดเนือโคขุน2กิโลเป็นตาแชบคักๆ🐄👌ມີເມນູແຊບໆມາຟາກອີກແລ້ວເດີ້ທຸກຄົນ😋💯

ฝีมือยับเอง ทำอาหารโปรดให้พ่อแม่กินครั้งแรก ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มีเมตตาก...

จารย์เอกประชันกับตาลืองานนี้มีมันส์เกี่ยวไปฝนลงเม็ดไป

โคกหนองนา บ้านคนเบิกทาง

เหมาแพตกปลา กลางเขื่อนลำแชะ ทริปนี้สนุก บรรยากาศสุดยอด ปลาก็เยอะ

ยกยอ ชะโดพุ่งสดุ้งกริ๊ดๆ ►Fishing lifestyle Ep.525

เข้าป่าล่าสัตว์ มาทำอาหารมื้อเที่ยงกับพ่อ | survival in the forest - YUB...

อีสาน บ้านเรา ยังคอยเด้อ หมู่บ้านรองรับ ลูกหลานกลับบ้าน

อบกระรอกเมนูสูตรเด็ด ของสาวอาข่า?? [มีโต๋สาวอาข่าลงมือเอง]

หมายสวย น้ำใหม่ ใส่เบ็ดปลาช่อนในนาช่วงข้าวเขียว เหยื่อเขียดตาโม่ หมานทั้...

สวนสมุนไพรหน้าบ้าน โคกหนองนา

ใส่เบ็ดปลาไหล/เมนูหมกใส่ใบตองกินข้าวอยู่ธรรมชาติอร่อยมาก EP.199

โคกหนองนา จุดเริ่มต้น ที่ต้องมีก่อน

เข้าป่าหาอาหารในป่ามาทำกินกับข้าวมันต้น - YUB AVERN

ทำไร่ข้าวที่เดิม ปลูกข้าวได้ 2 ปี - YUB AVERN

นึกว่างูเหลือมติดมอง ที่แท้เป็นปลาเนื้อดี หาปลากับคุณพ่อ ใส่มอง ดักมอง ก...

โคกหนองนา ปรับเปลี่ยน ให้ได้ดั่งใจเรา

ระทึก !! ตีรังต่อหัวเสือรังใหญ่ บนต้นยูคา พรานภูมิพลาดท่า โดนต่อย 2 แม่ ...

โคกหนองนา คนเบิกทาง

ติดป่า4วัน4คึนหาอาหารเอาชีวิตรอด

ทำเถียงไร่แบบโบราณ ง่ายมากฯ - YUB AVERN | ເຮັດຖຽງໄຮ່

จุดกางเต็นท์เขายายเที่ยง

ตีผึ้งหลวง 2 รัง บนยอดงิ้วป่าสูงลิบ ก้อนหัวน้ำใหญ่มาก แต่มีทั้งเรื่องตื่...

ใช้ชีวิตอยู่ในป่า3 วัน 2 คืน,สร้างที่พัก หาอาหาร ตอนที่2(AKHA NOI}

เที่ยว1 วันในแขวงบ่อแก้วลาว

นอนเทียงไร่ 2 คืน หาปลา ล่าสัตว์ป่า มาทำอาหาร | ຖາງຫຍ້າສວນມັນຕົ້ນ ຫາປູຫາ...

มือใหม่ยังไง ทำไมกล้าตัดสด !! หาผึ้ง หามิ้ม ตีมิ้มแบบตัดสด มิ้มรังใหญ่ ท...

เข้าป่าต่อนกเขาใหญ่เพื่อมาเลี้ยงที่บ้าน

เดินทางสู่ลาวเหนือเพื่อมอบอุปกรณ์การศึกษาแก่เด็กดอยตอน2

ใช้ชีวิตในป่าหาของกินจากธรรมชาติ ช่วงฤดูหนาว - YUB AVERN | ຫາຂອງກິນຈາກທຳ...

คนชนเผ่าอาข่าถ้าคลอดลูกก่อนแต่งงาน,รู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น..![AKHA NOI]

เคยสงสัยกันไหมว่าเพราะอะไร.ผัว-เมียชนเผ่าอาข่าถึงไม่นอนด้วยกัน.

วิถีชีวิตคนดอยไปเก็บผักหลังฝนตก22/2/ 2021[AKHA NOI]

ทำไร่ข้าวบนภูเขา ล่าสัตว์ป่ามาทำอาหารมื้อเที่ยง | YUB AVERN

ตะลุยดงผึ้ง ดงมิ้ม ตอนที่ 2 หาผึ้ง หามิ้ม ในป่ายูคา รอบนี้พรานไก่จัดหนัก...

เปิดคลังสมบัติและเรื่องราวความรักในวัยเด็กของAKHA NOI.!

วิถีชีวิตของคนในชนบท ทำไร่ข้าวบนภูเขา หาอาหารในป่า - YUB AVERN

ใช้กล้องถ่ายและอุปกรณ์อะไรบ้างเวลาเข้าป่า.!มาดูกันเลย[AKHA NOI]

ตะลุยดงผึ้งมิ้ม หาผึ้ง หามิ้ม ป่านี้ผึ้งเยอะมากๆ ต้นละ 4-5 รังก็มี น้ำหว...

เข้าป่าดักนกกินน้ำด้วยกาวหนูไปดูกันเลยว่าจะได้ไหม[AKHA NOI]

พิธีเปิดโรงเรียนประถมศึกษาอยู่บ้านนอก | ພິທີໄຂສົກຮຽນໃຫມ່ ໂຮງຮຽນປະຖົມ

ลุยเดี่ยว ตีผึ้งหลวงรังสวย ด้วยตัวคนเดียวรังแรก มือใหม่หัดตีผึ้งหลวง แฟน...

เข้าป่าหาจับกบภูเขา,กบที่ขึ้นชื่ออร่อยสุดในโลก.![AKHA NOI]

ย้ายบ้านมาอีสานมิวสิคเฟสติวัล ครั้งที่ 9 2020

ฝนมาแล้วถึงเวลาไต้กบไต้เขียดและจับปลากันพี่น้องเอ้ย..![AKHA NOI]

บุญระหว่าง 2 หมู่บ้านที่ยิ่งใหญ่ทีสุด หลายๆปีมี 1 ครั้ง หาดูยากมากฯ - Y...

เส้นทางไปงานอีสานเขียว 2020

ตั้งแคมป์ใส่เบ็ดกบ เบ็ดปลา ในนาข้าว ก่อไฟหมกหอยกิน ในกระท่อมน้อยปลายนา บ...

ไปสักยา

ชนบทในลาวปิดด่านครั้งนี้หนักแน่นกว่าเดิมอีก | Rural in Laos closed the c...

ใส่เบ็ดในนาข้าว กับสาวครู บรรยากาศดี๊ดี แถมมีผลงาน

ปลาปิรันย่า น้ำจืด นึ่งมะนาว

อยู่แบบชาวนา

น้องบัวงหอง พาไปหาปลาไหลตามธรรมชาติ​ หาครั้งแรกจะเกิดอะไร...??

รถไถติดหล่ม เอาขึ้นได้อย่างไร วิธีเอารถไถขึ้น

น้องบัวงหอง พาไปหาปลาไหลตามธรรมชาติ​ หาครั้งแรกจะเกิดอะไร...??

เอาชีวิตรอดในเมืองชายแดนลาว-ไทย🇹🇭🇱🇦.![AKHA NOI]

ไปยามเบ็ดกบยามเช้าๆ(ลูกสาว ชาวนา)

วิถีชีวิตคนอีสาน หาของฝาก

🌱ไปกินข้าวป่ากับสาวๆ-สาวอาข่าลาว

ดูหมอลำ ความสุขคนอีสาน

สาวลาว บ้านหินบูน ตำน้ำพริกปูนา จีหอมๆ ตามแบบสาวอีสานบ้านทุ่ง🇱🇦|Laos Food

โคกหนองนา 4 ปีที่มีความสุข จุดเริ่มต้น มีทุกวัน

โคกหนองนา มหาสนุก

ก้อยห้อยนา ตามคำขอ ใส่น้ำปลาร้านัวๆ มากินด้วยกันไหมคะ|Lao Food | อาหารบ้...

ไอเดียคนไทย​ เกี่ยวข้าวล้มขวางคันนาแบบไม่ต้องใช้คนตามเก็บ

★กองกำลังสตรีแห่งยูเครน★สวนสนามทางทหารในเคียฟ★สาว ๆ แห่งกองทัพยูเครน

โคกหนองนา อาหารปลาโบราณ

กองกำลังสตรี DPRK (เกาหลีเหนือ) ขบวนพาเหรดทหาร 2020

นาบิ้งเดียวเกือบ60ไร่​ เกี่ยว1รอบจะเต็มอุ้มก่อนไหม

ล้อมต้น อีเป้ง อินทผาลัมป่า ใจไม่ถึงทำไม่ได้

กางเกงสตรีแห่งญี่ปุ่น | การสวนสนามของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น

กองกำลังสตรีแห่งโคลอมเบีย ★ ขบวนพาเหรดทหารวันประกาศอิสรภาพของโคลอมเบีย

กองกำลังสตรีเวียดนาม ★ ขบวนพาเหรดวันชาติเวียดนาม

วันนี้อีก1วันที่มาตกปลา ได้ปลาใหญ่มาก มีความสุขจังเลย😁😁#น้องหอมท่าเดื่อ#...

สาวลาวพาน้องกับแม่มาฉีดวัคซีนเข็มแรกค่ะ ที่สปป.ลาว#สาวลาวเชโน🇱🇦

ບຸນປະເພນີໄລ່ຜີຂອງເຜົ່າອາຄາລາວ//งานบุญประเพณีไล่ผีออกจากบ้านเผ่าอาข่าลาว#...

น้องโตเกียวเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะ จะมีไครแวะมาดูมั๊ยน้อ #สาวลาวเชโน🇱🇦

Ep60. ไปเก็บแมลงในป่ากันค่ะ มาดูว่าจะเป็น แมลงอะไร??#น้องหอมท่าเดือ#เก็บ...

ตามล่ากระรอกบินในป่าลึกกับอาม่า[AKHA NOI]

1ວັນຍ່າງຂ້າມພູ3ລູກ//1วันเดีนข้ามภูเขา3ลูก Dong Una

น้องโตเกียวพาลุยป่าชุ่มน้ำ หาวัตถุดิบให้พี่สาวทำอาหาร🇱🇦#สาวลาวเชโน

6เดือนเห็นแล้วชื่นใจ!!เปลี่ยนป่าอ้อยเป็นหลุมหลบภัย..ผสมผสานมีอยู่มีกิน

ເດີນທາງເຂົ້າໃຊ້ຊີວິດໃນປ່າ//เดีนทางเข้าใช้ชีวิตในป่า Dong Una

วันนี้ ดำนาที่บ้านค่ะ มีบางอย่างที่ทำไม่เหมือนที่ไทย🇹🇭มาดูว่ามีอะไรแตกต่...

วิถีชีวิตบ้านๆ ทำอบหนู ทำอาหารรอพ่อแม่

ແຕ່ງກິນແບບບ້ານໆ//ทำกับข้าวแบบบ้านๆแต่อร่อยมาก

ເດີນທາງສູ່ບ້ານລັບເເລ//เดีนทางสู่บ้านลับเเล Dong Una

สารคดี สำรวจโลก ตอน หางกระดิ่งยอดนักฆ่า

ຫາເກັບໝາກໄມ້ປ່າ//หาเก็บหมากไม้ป่าDong Una

สารคดี สำรวจโลก ตอน เปลวไฟและธารน้ำแข็งแห่งวีรูงกา

คนรักต้นไม้ ฟังเสียงนก เสียงเขียด ธรรมชาติสร้างสรรค์

หากินตามธรรมชาติ ขุดจี้กุ่ง 🦗🦗ในทุ่งนา ตัวใหญ่สุดๆค่ะ#น้องหอมท่าเดื่อ #ข...

ทางกลับบ้าน//ທາງກັບບ້ານເຮົາ

การบุกทำลายยุคทองอิสลามของกองทัพมองโกล - History World

สารคดี สำรวจโลก ตอน สายฟ้า พลังงานทรงพลัง

วันนี้พามาดูงานศพ คนในหมู่บ้านค่ะ จะมีประเพณีแบบไหนบ้าง มาดูกันค่ะ#น้องห...

ทำไมประเทศหมู่เกาะทางใต้ ถึงเป็นศาสนาอิสลาม? - History World

Documentary Living Legacy epsiode “Primate”

สารคดี สำรวจโลก ตอน สัตว์แปลกในเขตร้อนชื้น

เปลี่ยนอาชีพแม่ค้า มาเป็นคนเก็บหอยแล้ว เพราะหอยได้ราคาดีกว่า มาดูกันว่า ...

ทำเมนูอาหารเด็ดๆกินอยู่ในป่า🌱🌳//ເຮັດອາຫານແຊບໆກິນຢູ່ປ່າ

หากินตามธรรมชาติ ขุดจี้กุ่ง 🦗🦗ในทุ่งนา ตัวใหญ่สุดๆค่ะ#น้องหอมท่าเดื่อ #ข...

ลาบต้ม ข้าวเหนียว 100 บาทก็อิ่มได้

สารคดี สำรวจโลก ตอน สถาปนิกบีเวอร์

ทำกล่องของขวัญแบบง่ายๆ//ວິທີເຮັດກ່ອງຂອງຂວັນ #AKHAZAMI

US Testing Creepy $40 millions Robots to Replace Horse: Legged Squad Sup...

เรื่องเล่าจากป่าเสือสมิงมานอนเฝ้าคุณปู่[AKHA NOI]

เอาชีวิตรอดในป่าลึกหาล่าสัตว์ตอนกลางคืนมาทำอาหาร-AKHA NOI

วันหยุดมาทำสวนกับคุณแม่

ขับรถไถเดินตามจะได้ไร่ล่ะเท่าไรน๊าา #ไม่ซิ่งก็สาย☺

สารคดี สำรวจโลก ตอน นาทีหายนะ

สารคดี นักล่าแอฟริกา

สารคดี สำรวจโลก แร่ล้ำค่าที่โลกซุกซ่อนไว้ การจะเอามันออกมาย่อมไม่ใช่เรื่...

Woodturning - A coconut on a Lampshade // Um coco em um Abajur

Amazing Fastest Large Wood Sawmill Machine Working- Woodworking Processi...

สารคดี สำรวจโลก ตอน วิมานดงหนามแห่งแอฟริกา

ทักษะการตัดต้นไม้ด้วยเลื่อยยนต์ขนาดใหญ่ที่เร็วที่สุด, การโค่นต้นไม้ที่น่...

22 Minutes Modern Long Reach Excavator Machine Working - Fast Destroy Bi...

สารคดี สำรวจโลก ตอน สมบัติใต้ท้องทะเล

สารคดี สำรวจโลก ตอน ชุมชนในธรรมชาติ

รถขุดตอไม้อย่างรวดเร็วที่น่าทึ่งเป็นที่พอใจ เครื่องบดตอไม้และเครื่องบดไม้

เริ่มจากตรงกลาง! รถแทรกเตอร์ G1000 ปลูกฝังดินจากด้านกลาง

ฅ.คนขั้นเทพ 25 สิงหาคม 2564

ทำห้างบนต้นไม้ส่องดูสัตว์ในป่าลึก

เผยตัวเลขเงิน อุดปาก! พ่อผู้เสียชีวิตรับจาก “ผู้กำกับโจ้”เท่าไหร่ ส่อถูก...

ทำห้างบนต้นไม้เพื่อส่องดูสัตว์-AKHA NOI

เล่นน้ำห้วยสนุกสนานกันใหญ่ ไหลแรงมาก-AKHA NOI

ไม่ว่าทะเลชีวิตจะคลื่นแรงแค่ไหนผมรู้ว่าคุณจะอยู่ข้างผมเสเมอ-AKHA NOI

ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการปลูกผัก🥦🥬หาอาหารในสวน

ไปช่วยปลูกอ้อยของชาวบ้าน

ฝนตกแรงแค่ไหน...ก็ต้องได้ไปโรงเรียน😊

ไปเที่ยวบ้านสาวครู-อาข่าน้อย

แหย่ไข่มดแดงมาก้อยคาป่า..![AKHA NOI]

คนป่าก็ฉีดวัคซีนcovid-19เหมือนกันเด้อ..![AKHA NOI]

วัฒนธรรมการทอผ้าดั้งเดิมของอาข่า//ຂັ້ນຕອນການຖັກຜ້າແພຂອງຊົນເຜົ່າອາຄາ #AKH...

เจ้าบุญรอดมีเพื่อนแล้ว..!ต้อนรับสมาชิกใหม่[AKHA NOI]

ของขวัญวันวาเลนไทน์ จากคนป่า.!Valentine's day gift from the wildman[AKHA...

รายงานชุดสืบสวน ผู้กำกับโจ้ หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน | 26-08-64 | ข่าวเที่ย...

วันนี้ไปจ่ายตลาดกับสาวจีน - ทำอาหารแบบสไตล์จีนกินกันค่ะ

เสรีพิศุทธ์ ชม ตร.ชั้นผู้น้อย กล้าหาญ แฉหลักฐาน ‘ผู้กำกับโจ้’ | workpoin...

ເກັບສາລີກັບແມ່//เก็บสาลีกับคุณแม่ค่ะ

ออกหมายจับแก๊ง "ผู้กำกับโจ้" ล่าสุดจับแล้ว 5 ตำรวจฉาว | 25-08-64 | ไทยรั...

เปิดห้องเชือด 'ผกก.โจ้' จุดคลุมถุงดำ เจอรื้อสายแลนวงจรปิด ยันแค่มาจีบลูก...

สารคดี สำรวจโลก ตอน นักล่าแห่งทุ่งหญ้าแอฟริกัน

การใช้ชีวิตประจำวันแบบบ้านนอก #AKHAZAMI

ความลับแห่งเอเชีย ตอน ประเทศปากีสถาน

ເບື້ອງຫລັງການຖ່າຍຮູບຂອງພວກເຮົາຕະກຸນແລເຊີ//เบื้องหลังการถ่ายรูปของตระกูลแ...

ประเพณี​ร่วมกันทำโลงบรรจุ​ศพ​ของชาวอาข่า

การทำฟาร์มมะเขือยาวเรือนกระจกที่ยอดเยี่ยม - เทคโนโลยีการเกษตรเรือนกระจกท...

สารคดี ของดีประเทศไทย วัดซิกข์ พาหุรัด

สารคดี สำรวจโลก ตอน ชนเผ่านักล่าหัว

ความแตกต่างระหว่างขั้วโลกเหนือ VS ขั้วโลกใต้

สารคดี สำรวจโลก ตอน เผ่าลึกลับแห่งปาปัวนิวกินี

เซ่นไหว้บอกแม่ย่านางรถเกี่ยว

กิจกรรมการแจกผ้าปิดปากให้นักเรียนชนบท ลาว🇱🇦

ไปเล่นแคมแม่น้ำโขงบ่อแก้ว - เบื้องหลังการถ่ายรูป😅

จัดซากรถเกี่ยว180,000 คุ้มไหม​สภาพนี้

เก็บผักกูดป่าตามธรรมชาติ☘⛰_สาวอาข่า🇱🇦

แพ็คต้นมะยมเงิน มะยมทอง ส่งลูกค้าอย่างง่ายๆ บัวบกผา บัวบกโขด

เอื้องหมายนาด่าง มะยมเงิน มะยมทอง บัวบกผาบัวบกโขดคนต้นรักไม้

3สาวกินอาหารริมแม่น้ำแต่ละ เมนูน่ากินมาก และ อาบน้ำเย็นๆที่น้ำห้า

ตกปลาในพื้นที่รกๆเเคบๆ โดนตัวอะไรทำให้เเม่ตกใจ จนเกือบตกเรือ / บ้านนอก E...

ทึ่งทั่วโลก Ep.101_4k ตอน ถนนแห่งความตาย ประเทศโบลิเวีย

เผาศพโบราณเขมร อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ งานศพคุณยายทอง อะโรคา สิริอายุ๘๙ปี

สารคดี สำรวจโลก ตอน มนต์เสน่ห์ของม้าป่า

สารคดี สำรวจโลก ตอน เผ่าลึกลับในออสเตรเลีย

เพิ่งเคยไปงานศพบนดอย วิวสวยมาก

งานศพแปลกๆประเพณีเขมรสุรินทร์

สารคดี สำรวจโลก ตอน กาลาปากอส ดินแดนสัตว์ประหลาด

ร้านราเม็งสไตล์เก่า - วันในชีวิตของพ่อครัวราเม็ง - อาหารริมทางของญี่ปุ่น...

สารคดี สุดยอดตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดที่บาร์เซโลน่า ที่มีคนมาใช้บริการ ...

วันในชีวิตของอาจารย์ปลาไหลย่าง - นักเรียนมัธยมต้นถึงอาจารย์ปลาไหล - อาหา...

ร้านขายเนื้อคุณปู่ - แผงขายเนื้อแบบเก่า - อาหารริมทางของญี่ปุ่น

วิถีชีวิตคนดอย เข้าป่าหา ตัดฟืน

ไปขุดสวนผักที่บนดอย

LIVE 🔴 THA vs. CMR - Group Phase | Boys U19 World Champs 2021

01.06.2021 - VN24 - ยางแบนบนรถบรรทุก - การคืนเบาะนุ่ม soft

ชีวิตสัตว์มหัศจรรย์ ตอน สโตธ (Stoat) หรือเพียงพอนหางสั้น นักล่ากระต่ายแห...

แต่งรถเพิ่มติดตั้งแตร่ใส่รถเกี่ยวรอช่างเอี๋ยวมาจัดชุดใหญ่ให้

สารคดี สำรวจโลก ตอน ตามติดชีวิตแคริบู

สารคดีส่องไพร ตอน ตื่นไพรในสะวันน่า

ไปเก็บผักจับปลามาทำอาหารกับครอบครัวสาวอาลี(AKHA NOI)

สารคดี สำรวจโลก ตอน มังกรทะเล

ไปงานแต่งอาข่าลาวครั้งแรกในชีวิต(AKHA NOI)

ทึ่งทั่วโลก การขายของที่เจ๋งที่สุดเท่าที่เคยเจอ

กินแล้วก็นอน มีเด็กร้อนตัว น่ารักมากจูเนียร์ - น้องจูเนียร์ Family Ep.44

ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติล่าสัตว์มาเป็นอาหาร EP.198

🎉ฉลอง 10 000 ซับ พาครอบครัวอาข่าน้อยเรัดข้าวต้มกิน🥰

ซื้อจ้าวช้างมือสองจากบุรีรัมย์ไป 1,600,000 จะเกี่ยวคล่องไหม

พาลูกหลานมากินปู 🦀 ยั่วยั่วค่ะ#น้องหอมท่าเดื่อ #ปูนา #กินปูนา

น่าเสียดาย​จีก้า 12 ล้อมาก

น้องจูเนียร์ จะไปโรงเรียนหรือไม่ไป ของกินเยอะขนาดนี้ - น้องจูเนียร์ Fami...

น้องจูเนียร์ กว่าจะหลอกให้หลับได้ เกือบครึ่งชม - สตอรี่ช้างไทย

ข้าวก็ดีฝนก็จะมาเจ้าของนาสั่งดันจัดให้ครับ

ขายต้นไม้มงคล บัวบกผา บัวบก เอื้องหมายนาด่าง มะยมเงินมะยมทอง

พี่บ๊อบ อาสา เลี้ยงน้องจูเนียร์ 1วัน กล่อมน้องนอนแทนพ่อจ๋า ~จะสำเร็จมั้ย

สารคดี สำรวจโลก ตอน โลกของลิงไร้หาง

เข้าป่าขุดต่อหลุมยักษ์ตอนกลางคืน.![ອາຄານ້ອຍ]

ทึ่งทั่วโลก ประเทศที่ผู้คนใช้มอเตอร์ไซค์ในทุกกิจกรรม เวียดนาม

สารคดี สำรวจโลก ตอน ผู้พิทักษ์สัตว์ป่า

ทึ่งทั่วโลก ชุด The Asia Hunter ตอน ตลาดพื้นเมืองที่มีประวัติศาตร์ยาวนาน...

โหดมันส์ฮาทั้งคลิปข้าวก็ดีนาก็โหล่มเหนียวทางขึ้นก็โหดคลิปนี้สุด

ทึ่งทั่วโลก ชุด The Asia Hunter ตอน การขุดหาน้ำมัน เกาะชวา ประเทศอินโดนี...

สารคดี เครื่องเทศ ตอน โอมาน

คิดฮอดชนบทเมืองลาว ຄຶດຮອດຊນນະບດເມືອງລາວ

ใส่ชุดสวยๆเที่ยวชมหมู่บ้านไตลื้อใน ส ป ป ลาว ที่ยังใช้ชีวิตดั้งเดิม🇱🇦

ອາກາດຍາມເຊົ້າຢູ່ບ້ານລັບເເລ//อากาศยามเช้าอยู่บ้านลับเเล Dong Una

ลงงานวันแรกรถอัดฟางล้อแทรค มีระบบรองข้าวที่ปนมากับฟางด้วย

รถตีดินไทยเจริญ​ ราคารับจ้างฟังแล้วใจหายมาก

สารคดี สำรวจโลก ตอน ผจญภัยในอลาสก้า

กระรอกน้อยกลับมาเยี่ยมบ้านหลังหนืไปอยู่ป่าหลายวัน[AKHA NOI]

กินข้าวสามัคคีอยู่สวนอ้อย เอาแพะ🐐มาทำเมนู//ກິນເຂົ້າສາມັກຄີຂ້າແບ້ກິນຢູ່ສວ...

ເລາະກິນປີ້ງຫໍ້ແຄມທາງໄມ້ລະ1000ກິບ//เลาะกินปี้งไม้ละ1000กิบ#AKHAZAMI

เข้าป่าเก็บผลไม้มากินช่วงหน้าฝน![AKHA NOI]

ศาสนาบาบี และบาไฮ

 



ศาสนาบาบี และบาไฮ
 

เรียบเรียงโดย สภายุวมุสลิมโลก

แปลโดย : อันวา สะอุ / Islam house

อัล-บาบิยะฮฺ และอัล-บะฮาอิยะฮฺ คือ ลัทธิที่แยกตัวจากสำนักคิดชีอะฮฺสายอัช-ชัยคียะฮฺ เมื่อปี ฮ.ศ.1260 / ค.ศ.1844 ภายใต้การอุปถัมภ์ค้ำชูของจักรวรรดินิยมโซเวียต องค์กรยิวสากลและจักรวรรดินิยมอังกฤษ โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ทำลายหลักการศรัทธาของอิสลาม สร้างความแตกแยกในหมู่มุสลิม และเพื่อให้ชาวมุสลิมหันเหจากปัญหาหลัก

การก่อกำเนิดแนวคิด ลัทธินี้ก่อตั้งโดย อัล-มิรซาอะลีย์ มุหัมหมัด ริฎอ อัช-ชีรอซีย์ (มีชีวิตระหว่างปี ฮ.ศ.1235 -1266 / ค.ศ.1819 - 1850) มีฉายานามว่า อัล-บาบ (ชาวบาไฮในประเทศไทยเรียกว่า พระบ็อบ) เมื่อตอนอายุ 6 ขวบ อัล-มิรซาอะลีย์ มุหัมหมัด ริฎอ อัช-ชีรอซีย์ ได้ศึกษาความรู้ครั้งแรกจากนักเผยแพร่นิกายชีอะฮฺท่านหนึ่ง ต่อมาเขาได้หยุดเรียน และหันไปประกอบอาชีพค้าขาย เมื่ออายุ 17 เขาได้กลับมาศึกษาหาความรู้อีกครั้งโดยสนใจในตำราเกี่ยวกับวิชาตะเศาวุฟ และการฝึกฝนทางจิตวิญญาณตามแนวทางของพวกอัล-บาฏินียะฮฺ ที่นิยมการทรมานร่างกาย

ในปี ฮ.ศ. 1259 เขาได้เดินทางไปยังกรุงแบกแดด และได้เริ่มศึกษาหาความรู้จากผู้นำชีอะฮฺ สายอัช-ชัยคียะฮฺ ซึ่งมีนามว่า กาซิม อัร-ร็อชตีย์ เขาได้ศึกษาแนวคิด และทัศนะต่างๆ ของลัทธินี้อย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับสายลับชาวรัสเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า คินาซด์ ฆุรกีย์  เขาคนนี้ได้อ้างตนว่า เป็นมุสลิมโดยใช้ชื่อว่า อีซา อัน-นักรอนีย์ เขาผู้นี้ได้เริ่มสร้างกระแสว่า อัล-มิรซา มุหัมหมัด อัช-ชีรอซีย์ คือ อิหม่ามอัล-มะฮฺดีย์ ที่โลกรอคอย และเป็นอัล-บาบ (ประตูสู่การรู้จักสัจธรรมเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า) ซึ่งจะปรากฎตัวหลังการเสียชีวิตของอัร-ร็อชตีย์ ทั้งนี้เนื่องจากเขามองว่า อัช-ชีรอซีย์ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะอุปโลกน์เพื่อให้แผนการของพวกเขาบรรลุผลในการสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวมุสลิม

คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 ญุมาดัลเอาวัล ฮ.ศ.1260 ตรงกับ 23 มีนาคม 1844 เขาได้ประกาศตนว่าเขาคือ อัล-บาบ ตามความเชื่อของชีอะฮฺ สายอัช-ชัยคียะฮฺ หลังการเสียชีวิตของอัร-ร็อชตีย์ เมื่อปี ฮ.ศ. 1259 เขาอ้างตนว่า เป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ เสมือนกับท่านนบีมูซา นบีอีซา และนบีมุหัมมัด (แท้จริงแล้วบรรดาศาสนทูตของพระองค์มีเกียรติอันสูงส่งไม่สามารถนำมาเปรียบกับเขาได้เลย)

จากคำกล่าวอ้างดังกล่าวทำให้ศิษย์ของอัร-ร็อชตีย์ หลงเชื่อและผู้คนทั่วไปพากันหลงเชื่อด้วยเขาจึงเลือกบุคคลจำนวน 18 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่แนวคิดของเขา โดยให้ฉายานามบุคคลเหล่านั้นว่า อัล-หุรูฟ อัล-หัยย์ (อักษรที่มีชีวิต) แต่เมื่อปี ฮ.ศ. 1261 พวกเขาได้ถูกทางการจับกุมตัว และในที่สุดพวกเขายอมประกาศเตาบัต (กลับตัว) บนมินบัรฺมัสยิดอัล-วะกีล หลังจากที่พวกเขาได้สร้างความเสื่อมเสียบนหน้าแผ่นดิน เข่นฆ่าชาวมุสลิมมากมาย ตลอดจนกล่าวหาว่า ชาวมุสลิม กลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา

ในปี ฮ.ศ.1266 อัล-มิรซาอะลีย์ มุหัมหมัด ริฎอ อัช-ชีรอซีย์ (อัล-บาบ หรือพระบ็อบ) ได้อ้างว่า พระผู้เป็นเจ้าได้สถิตย์ในร่างของตน (หุลูล อิลาฮิยะฮฺ) แต่หลังจากปราชญ์มุสลิมได้โต้เถียงกับเขาถึงประเด็นนี้เขาได้แสดงท่าทีว่า ยอมรับ และกลับตัว แต่ปราชญ์มุสลิมไม่ได้หลงกล เนื่องจากรู้ว่าเขาผู้นี้เป็นคนขี้ขลาดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริง ดังนั้น ปราชญ์มุสลิมได้ตัดสินให้ประหารชีวิตเขา และสหายของเขา อัซ-ซะนูซีย์ ส่วนผู้บันทึกคำสอนของเขาที่ชื่อว่า หุสัยน์ อัล-ยัซดีย์ ได้เตาบัต (กลับตัว) จากลัทธิอัล-บาบิยะฮฺ ก่อนที่จะถูกประหารทำให้เขาได้อิสรภาพไม่ต้องโทษ เมื่อวันที่ 27 ชะอฺบาน 1266 ตรงกับวันที่ 8 กรกฎาคม 1850

บุคคลสำคัญของอัล-บะฮาอิยะฮฺ

1. กุรเราะฮฺ อัล-อัยนฺ ซึ่งมีชื่อจริงว่า อุมมุ สัลมา ถือกำเนิด ณ เมืองก็อซวีน เมื่อปี ฮ.ศ. 1231 ได้ศึกษาหาความรู้จากมุลลา มุหัมหมัด ศอลิหฺ อัล-ก็อซวีนีย์ หนึ่งในปราชญ์ชีอะฮฺ ต่อมาได้สนใจศึกษาแนวทางชีอะฮฺสายอัช-ชัยคียะฮฺ ผ่านลุงของนางเอง คือ มุลลา อะลีย์ อัช-ชัยคีย์ นางได้รับอิทธิพลทางความคิดจากชีอะฮฺกลุ่มนี้ ต่อมานางได้เดินทางมาศึกษาจาก กาซิม อัร-ร็อชตีย์ พร้อมอัล-บาบ ณ เมืองกัรบะลาอ์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิรัก)จนมีคนเข้าใจว่า นาง คือ ผู้ออกแบบแนวความคิดต่างๆ ให้แก่อัล-บาบ

เนื่องจากนางเป็นนักพูดที่ชาญฉลาดมีวาทะโวหารที่ปราดเปรื่อง อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความเลอโฉมงดงาม แต่นางก็ถือว่า เป็นหญิงแพศยา สามีของนางได้ขอหย่า และปฏิเสธการเป็นบิดาของลูกที่อยู่ในครรภ์ของนาง นางได้รับฉายานามว่า "เราะซีน ตาญจ์" เจ้าของบทกวีภาษาเปอร์เซีย

ในเดือนเราะญับ ปี ฮ.ศ. 1264 นางได้ประชุมหารือกับแกนนำลัทธิอัล-บาบิยะฮฺ ณ เมืองบะดัชต์ (Conference of Badasht) นางเป็นผู้ที่กล่าวสุนทรพจน์ และสร้างความฮึกเหิมแก่มวลสมาชิกอัล-บาบิยะฮฺเพื่อออกมาประท้วงการจับกุมอัล-บาบ และได้ประกาศจุดยืนว่า อัล-บาบิยะฮฺได้เป็นอิสระจากศาสนาอิสลามแล้ว

นางเป็นผู้หนึ่งที่เข้าร่วมวางแผนลอบสังหารกษัตริย์ ชาฮ์ นาศีรุดดีน อัล-กอญารีย์ (Nasser al-Din Shah Qajar- กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศอิหร่าน ระหว่างปี ค.ศ.1848 - 1896) ต่อมานางได้ถูกจับกุม และถูกตัดสินให้เผาเป็นๆ แต่ทว่านางได้เสียชีวิตก่อนจะถูกประหารในต้นเดือนซุลเกาะอฺดะฮฺ ฮ.ศ. 1268 ตรงกับ ค.ศ. 1852

2. อัล-มิรซา ยะหฺยา อะลีย์ มีศักดิ์เป็นน้องชายของอัล-บาบ มีฉายานามว่า ศุบฮฺ อะซัล  อัล-บาบได้สั่งเสียให้เขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแทนเขาหลังเสียชีวิตเรียกขานผู้ตามของเขาว่า อัล-อะซัลลิยีน แต่น้องชายของเขา อัล-มิรซา หุซัยนฺ อัล-บะฮาอ์ ต้องการชิงตำแหน่งผู้นำลัทธินี้เช่นกัน และต่างคนพยายามที่จะลอบสังหารกัน

ความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างอัล-บาบิยะฮฺกับพวกชีอะฮฺ ทำให้พวกเขาต้องถูกเนรเทศไปอยู่ที่เมืองอัดเราะนะฮฺ (Edirne) ประเทศตุรกี เมือปี ฮ.ศ.1863 อันเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวยิว และด้วยเหตุที่พลพรรคของศุบฮฺ อะซัล และพลพรรคของบะฮาอุลลอฮฺเกิดความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง สุลต่านแห่งอาณาจักรออตโตมานได้เนรเทศ บะฮาอุลลอฮฺพร้อมมวลชนของเขาไปอยู่ที่เมืองอักกา ส่วน ศุบฮฺ อะซัลและมวลชนของเขาถูกเนรเทศไปยังเกาะไซปรัส จนเขาได้เสียชีวิตที่นั้น เมื่อวันที่ 29 เมษายน 1912 ด้วยวัย 82 ปี โดยได้ทิ้งตำราที่เขาแต่ง คือ อัล-อัลวาหฺ และ ตำราอัล-มุสตัยกิซ และได้สั่งเสียให้บุตรชายของเขาที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์สืบทอดตำแหน่งผู้นำกลุ่มต่อไป จึงทำให้สมุนของศุบฮฺ อะซัลส่วนใหญ่ไม่พอใจ และได้ออกห่าง

3. อัล-มิรซา หุสัยนฺ อะลีย์ ซึ่งมีฉายานามว่า บะฮาอุลลอฮฺ ถือกำเนิดเมื่อปี ค.ศ.1817 ได้ชิงตำแหน่งผู้นำลัทธิอัล-บาบิยะฮฺจากพี่ชายของเขาหลังจากการเสียชีวิตของอัล-บาบ(พระบ็อบ) เขาได้ประกาศตนต่อหน้าสานุศิษย์ของเขาที่กรุงแบกแดด ว่าเขาคือ อัล-มุซ็อฮฮิรฺ อัล-กามิล ผู้ซึ่งอัล-บาบได้พยากรณ์ว่าเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ และพระผู้เป็นเจ้าได้สถิตย์ในร่างของเขาเพื่อสานต่อภารกิจการเผยแพร่ลัทธิอัล-บาบิยะฮฺ ต่อไป

การเผยแพร่ของเขาถือว่า เป็นการเผยแพร่ในบันไดขั้นที่สองในหลักความเชื่อศาสนาบาบี (ผู้ที่เลื่อมใสในคำสอนของเขาเรียกว่า บะฮาอิยูน หรือพวกบาไฮ) เขาพยายามที่จะลอบสังหารศุบฮฺ อะซัล ซึ่งเป็นพี่ชายของเขาเอง เขามีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับชาวยิวที่อยู่ในตำบลอัดเราะนะฮฺ (Edirne) เมืองสาโลนิกา (Salonika) ประเทศตุรกี อันเป็นแผ่นดินที่ชาวบาไฮ เรียกว่า แผ่นดินแห่งความลับ เขาได้ส่งมือสังหารจากเมืองนั้นไปยังเมืองอักกา และได้ทำการสังหารพลพรรคของพี่ชายของเขาศุบฮฺ อะซัล ล้มตายหลายราย

ในปี ค.ศ.1892 บะฮาอุลลอฮฺได้ถูกสังหารด้วยน้ำมือของสมุนพี่ชายของเขาเอง และร่างของเขาถูกฝังที่ สวนอัล-บะฮฺญะฮฺ เมืองอักกา (ประเทศปาเลสไตน์) เขามีผู้ทำหน้าที่เขียนคัมภีร์ให้เขา เช่น คัมภีร์อัล-บะยาน (Kitab al-Bayan) และ คัมภีร์อัล-อีกอน (Kitab al-Iqan) คัมภีร์ของเขามีเนื้อหาเรียกร้องให้ชนชาติยิวมารวมตัวกันตั้งถิ่นฐาน ณ ดินแดนปาเลสไตน์

4. อับบาส อะฟันดีย์ มีฉายานามว่า อับดุลบะฮาอ์ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1844 ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่อัล-บาบ ได้ประกาศลัทธิใหม่นี้ บิดาของเขา (บะฮาอุลลอฮฺ)ได้สั่งเสียให้เขาสืบทอดตำแหน่งผู้นำ เขาเป็นผู้ที่มีบุคลิกที่จริงจังมาก จนกระทั่งนักประวัติศาสตร์กล่าวว่า หากไม่มีอับบาส ศาสนาบาไฮคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้จนทุกวันนี้

ชาวบาไฮเชื่อว่า เขาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากมวลบาป (มะอฺศูม)เขาได้เพิ่มเติมคุณลักษณะบิดาของเขาบะฮาอุลลอฮฺ ให้คล้ายกับพระผู้เป็นเจ้า คือ สามารถที่จะบันดาลสรรพสิ่งขึ้นมาได้ อับบาส อะฟันดีย์ ได้เดินทางเยือนประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พร้อมได้เขาร่วมประชุมสมัชชาไซออนนิสต์ ณ เมืองบาเซิล (Basle)

ในปี ค.ศ.1911 เขาได้พยายามที่จากแหกมติชนชาติอาหรับโดยหันไปสนับสนุนยิวไซออนิสต์ เขาให้การต้อนรับนายพลอัลเลนบี้ (General Edmund Allenby-แม่ทัพของอังกฤษที่มายึดครองปาเลสไตน์และซีเรียเมื่อปี ค.ศ.1917) ครั้งที่เดินทางมาที่ปาเลสไตน์ จนรัฐบาลอังกฤษชื่นชมบทบาทของเขาด้วยการยกฐานะเป็นเซอร์ (Sir -เป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งให้กับสามัญชนผู้มีความดีความชอบให้กับแผ่นดินมากซึ่งในอดีตก็จะเป็นอัศวินนักรบ)พร้อมทั้งประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ และสายสะพายอื่นๆ มากมาย

เขาได้เดินทางเยือนหลายประเทศ เช่น อังกฤษ อเมริกา เยอรมัน เบลเยียม ฮังการี อะเล็กซานเดรีย (อียิปต์) เพื่อทำการเผยแพร่ลัทธิของเขา จนกระทั่งเขาได้ก่อตั้งศูนย์ศาสนาบาไฮที่ใหญ่โต ณ เมืองชิคาโก ต่อมาเขาเดินทางไปยังเมืองฮัยฟา(ปาเลสไตน์) เมื่อปี 1913 ต่อมาเขาเดินทางไปยังกรุงไคโร และเสียชีวิตที่นั้นเมื่อปี ฮ.ศ.1340 / ค.ศ.1921 หลังจากที่เขาได้ถ่ายถอดความรู้จากบิดาของเขา พร้อมทั้งได้เพิ่มเติมคำสอนจากคัมภีร์ไบเบิลพันธะสัญญาเก่า เพื่อเป็นการยืนยันในคำสอนของเขาให้มีน้ำหนัก

5. เชากีย์ อะฟันดีย์ เป็นหลานของอับดุลบะฮาอ์ ปู่ของเขาได้จากโลกนี้ไปในขณะที่เขามีอายุ 24 ปี ในปี 1921 / ฮ.ศ.1340 เขาได้ดำเนินตามรอยทางปู่ของเขาในการบริหารองค์กรบาไฮ เพื่อก่อตั้งสภายุติธรรมสากล เขาได้เสียชีวิตที่กรุงลอนดอนจากหัวใจวาย และร่างของเขาถูกฝังที่นั้น แผ่นดินที่รัฐบาลมอบรางวัลมากมายแก่กลุ่มชาวบาไฮ

ในปี ค.ศ.1963 แกนนำบาไฮ 9 คน ได้ดำเนินการตามภารกิจของอัล-บะฮาอิยะฮฺ ด้วยการก่อตั้งสภายุติธรรมสากล (The Universal House of Justice)โดยมีคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน ประกอบด้วย ชาวอเมริกา 4 คน ชาวอังกฤษ 2 คน และชาวอิหร่าน 3 คน และเคยมีผู้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภา แห่งนี้เป็นชาวยิวฟรีเมสัน สัญชาติอเมริกา

-------------------------------------------------------

คนขับหญิง เครื่องเกี่ยวข้าว แบบโฮมเมด ตายแล้วประทับใจ

วิถีชีวิตของชาวบ้านมาชื้อไผ่บง

เล่าเรื่อง: ประวัติเจ้าแม่กวนอิม | Point of View

หลังเลิกเรียนพานักเรียนไปขุดมันเทศ[AKHA ZAMI]

มาหาน้องนุ่นบ้าน​ ​สป​. ฟลุ้คมากวันนี้

🇱🇦แหย่ไข่มดเเดงชมน้ำกระดิ่ง​ กับน้องลินดาสาวลาว

#น้องลินดา​ 🇹🇭🇱🇦สาวลาวข้ามมาฝั่งไทย​ มากินกุ้งเผา

ทำค้างถั่วด้วยไม้ไผ่

สารคดี สำรวจโลก ตอน ม้าป่าสัญลักษ์แห่งอเมริกา

บันทึกการเดินทางep11:มาทำความรู้จักกับบ้านและวิถีชีวิต,ความเชื่อต่างๆของ...

เทศกาลบุญปีใหม่อาข่าลาว-kar tanr par(AKHA NOI)

วัคซีน คืออะไร? มาจากไหน? | Point of View

ตาลีบันคือใคร เกิดอะไรที่อัฟกานิสถาน ? | Point of View

วันนี้จะมาเอาน้ำผึ้งเลี้ยงไว้ที่บ้าน เพื่อเอาไปขายหารายได้เสริม ของคุณลุง

น้ำยา ไล่ กำจัด มด เพลี้ย ไม่ต้องหมัก หายเกลี้ยงสวน ปลอดสารพิษ

ບັນທຶກໄວ້ເປັນທີ່ລະນຶກບົດຟ້ອນນັກຮຽນປະຖົມ// คิดถืงแต่เธอ_เพลงอาข่าไทย

เฮ็ดกระทงขายมื้อออกพรรษา//ເຮັດກະໂທງຂາຍມື້ອອກພັນສາ

เอาเรื่องแล้วพี่โอเริ่มกล้าลุยแล้ว555

ล้มง่ายไหมสงสัยกันจัง ทดสอบวิ่งขึ้นกองดินเลยTractor

เจ้าช้างวางท่ออุ้ม

เกี่ยว​ผ่านแล้วจะปล่อยข้าวผ่านไหม

เก็บผักปลอดสารพิษกับอาข่าบนดอย

เพชรเจริญ​ลงเกี่ยวครั้งแรกแบบเร็วๆบ้าง

งูเหลือมยักษ์มาขอกินไก่ถึงบ้านเลย.[AKHA NOI]

น้องนุ่นมาดูรถเกี่ยวใหม่

หลังเลีกงานไปเดินเล่นเก็บผักกับนักเรียน#AKHAZAMI

ถึงบ้านแล้วฟาดเคราะห์​นิดหน่อย

ลุยทางสูงชันเลาะหมู่บ้านลาหู่เก่าดิบลัดเส้นทางน้ำไหลผ่านถนนเจอวัดโบราณปร...

ทำอาหารพื้นบ้านแบบชาวดอย เคืองปรุงไม่เยอะ

พิธีสู่ขวัญครอบครัวน้า อาข่าดั้งเดีม

นักวิทยาศาตร์ค้นพบสิ่งมีชีวิตนี้..ในพื้นที่ระเบิดนิวเคลียร์

แข่งตกปลากับสาวครูใครจะชนะ.![ອາຄານ້ອຍ]

ลุยงานทุ่งหลังถนน 18 ไร่ 18 เกวียนชิวๆราคา 6400 พอได้แกง

เดินชมตลาดขายของป่าและอาหารสุกในเมืองสิงท่ามกลางสายฝน-AKHA NOI

ขอบคุณพี่FC อเมริกา ที่ส่ง💸มาให้น้องพวยหอม และ แอนดูน้องพวยหอม เหมือนเป็...

เลี้ยงสัตว์ที่มีพิษไว้เป็นบอดี้การ์ดในบ้าน-อาข่าน้อย

ช่วงCovid หาเงินไม่ได้ เก็บจิ้งหรีดขาย จะมีใครชื้อไหม😩😥#น้องหอมท่าเดื่อ#...

บันทืกการเดินทางep8:จุ๊เนื้อควายและลาบสดๆเมนุบ้านๆจากลาวเหนือ(AKHA NOI)

สาเหตุที่อยากเลิกทำYouTube คลิปนี้มีคำตอบ#น้องหอมท่าเดื่อ

เกษตรผสมผสานสุดสวยเลี้ยงหมูวัวปลากบครบวงจร!!ทำอย่างสวยอ.นาจะหลวย จ.อุบลฯ

ปีนขึ้นต้นไม้เก็บหมากลอด แบบลุยๆไม่ห่วงสวย//ໝາກລອດສົ້ມໆ

ปล่อยนก,กระรอก...กลับคืนสู่ธรรมชาติ...![AKHA NOI]

เข้าป่าล่าสัตว์ในหน้าฝนยามกลางคืน,ทำอาหารกินกันในป่าแบบชาวอาข่า-AKHA NOI

ไปส่งคุณยาย(หมอผี)กลับบ้าน

สวนสัตว์หลังบ้าน,กลับมาทำความฝันตอนวัยเด็กให้มันเป็นจริง[AKHA NOI]

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมพวงมาลัยรถลาวอยู่ซ้ายมือและขับเลนขวา[AKHA NOI]

สาวอาข่า นึ่งกล้วยน้ำว้าไปตากแดดเก็บไว้กินได้นาน//ກ້ວຍນ້ຳ

พาลูกปลูกหมากไม้(ผลไม้) ชมธรรมชาติท้องทุ่งบ้านนา ที่อ.เชียงคำ จ.พะเยา

บันทึกการเดินทางสู่ลาวเหนือep4:กินเที่ยวอยู่เมืองยอดอู,เมืองเหนือสุดของป...

มาดูน้องติสาวเมี้ย หลังจากหายไปดนเป็นไงไปดู

บันทืกการเดีนทางสู่ลาวเหนือ ep7: ตามติดชีวิตครูในชนบทลาว

เก็บผักบุ้งป่ากลางทุ่งหญ้าเขียวกับสาวดอย

เอาชีวิตรอด 1วัน1คืน สร้างที่พักหาอาหารในป่า-AKHA NOI

เดินป่า,ทำอาหารกินกันในป่า-AKHA NOI.

อาหารชั้นสูงจากธรรมชาติเข้าครัวทำเมนูต่อหลุมกิน.[AKHA ZAMI]

ความหมายของนรกในพระไตรปิฎก

 



ความหมายของนรกในพระไตรปิฎก

หากจะกล่าวความหมายของนรกในพระไตรปิฎกแล้วควรเป็นความหมายตามรูปศัพท์ เพราะมีการกล่าวถึงนรกมากตามพระสูตรต่างๆ

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน (2525: 422) ให้ความหมายว่า นรก คือ แดนหรือภูมิที่เชื่อกันว่า ผู้ทำบาปจะต้องไปเกิด และถูกลงโทษ โดยปริยาย หมายถึง แดนที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน

พระเทพมุนี (วิลาศ  ญาณวโร) (2527: 61-62) ให้ความหมายว่า เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ล้วน ปราศจากความสุขโดยสิ้นเชิง สัตว์ผู้ไปเกิดอยู่ในโลกนรกนั้น ไม่มีความสุขแค่สักนิดเลย เพราะฉะนั้น โลกนี้จึงได้ชื่อว่า นิรยภูมิ คือ โลกที่ไม่มีความสุขสบาย นิรยนรกนี้มีอาณาเขตกว้างใหญ่ แบ่งเป็นเขตขนาดใหญ่ก็มี ขนาดเล็กก็มี เช่นเดียวกับโลกมนุษย์ สถานที่แต่ละแห่งในนิรยภูมินี้ ไม่นิยมเรียก รัฐหรือประเทศ แต่นิยมเรียกว่า ขุม

กรมศิลปากร (2528: 48) กล่าวว่า ที่เรียกว่า นรก เพราะพวกที่ไปตกนรก เป็นคนชนิดที่ต้องตกต่ำ ปราศจากความอิ่มใจ ปราศจากความชื่นชม ก็พวกที่เป็นเนรยิกสัตว์ (สัตว์นรก) พากันไปในนรกนั้นด้วยกรรมของตน ทุคคติภูมิแห่งนี้ เลวกว่าภูมิทั้งปวงในกามธาตุ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นรก

พระเทพเวที (ประยุทธ์  ปยุตฺโต) (2531: 94-96) กล่าวว่า นรกตามที่รู้จักกันอยู่ เป็นเรื่องที่จะได้รับหลังจากตายแล้ว แม้ศาสนาอื่นก็ว่าอย่างนั้น นรกในพระพุทธศาสนาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในสังสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิด ชีวิตมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงหมุนขึ้นลง เรื่องโลกหรือจักรวาล เป็นสิ่งต้องห้ามไม่ควรคิด ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา นรกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ในชีวิตนี้สำหรับสามัญชน ถ้าจะพิสูจน์กันจริงๆ ต้องพิสูจน์ด้วยชีวิตจิตใจ ต้องพิสูจน์เป็นการเฉพาะตัว

ในพระไตรปิฎก คำว่า นรก ปรากฏว่ามีข้อความมากมายหลายแห่ง ซึ่งมีอยู่กระจัดกระจายทั่วไป สามารถหาความหมายได้คือ

. . . เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน ปราศจากความเศร้าหมอง อ่อน เหมาะแก่การใช้งาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ภิกษุนั้นน้อมจิตไปเพื่อจุตูปปาตญาณ เห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังเกิด ทั้งชั้นต่ำ และชั้นสูงงามและไม่งาม เกิดดีและเกิดไม่ดี ด้วยตาทิพย์อันบริสุทธิ์เหนือมนุษย์ รู้ชัดถึงหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรมว่า หมู่สัตว์ที่ประกอบกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริตกล่าวร้ายพระอริยะ มีความเห็นผิด และชักชวนผู้อื่นให้ทำกรรมตามความเห็นผิดพวกเขาหลังจากตายแล้วจะไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก แต่หมู่สัตว์ที่ประกอบกายสุจริต วจีสุจริต และมโนสุจริต ไม่กล่าวร้ายพระอริยะ มีความเห็นชอบและชักชวนผู้อื่นให้ทำกรรมตามความเห็นชอบ พวกเขาหลังจากตายแล้ว จะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์เธอเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังเกิด ทั้งชั้นต่ำและชั้นสูงงามและไม่งาม เกิดดีและ เกิดไม่ดี ด้วยตาทิพย์อันบริสุทธิ์เหนือมนุษย์ รู้ชัดถึงหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม อย่างนี้แล (อํ.ตุกก 21/189/310)

สรุปได้ว่า คำว่า นรก มาจากคำบาลีว่า นิรยะ แปลว่า สภาพที่ไม่มีความเจริญ สภาพที่ไม่มีความสุข สภาพหรือภูมิที่ไม่มีความยินดี ไม่มีความเบาใจ นรก คือ ภูมิ เป็นที่เสวยทุกข์ของคนผู้ที่ทำบาป ตายแล้วไปเกิด เป็นเหวแห่งความทุกข์ ไร้เสียซึ่งความสุขและความเจริญ เป็นภาวะที่ร้อนรน ซึ่งจะเห็นได้ว่า นรก หรือ นิรยะนั้น แสดงถึงสถานที่หรือภูมิ ที่ไม่ดี ที่เลว เป็นรวมแห่งการลงโทษทัณฑ์ทั้งหลายตามกรรมที่ได้กระทำชั่วไว้ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ หลังจากตายแล้วก็ไปเกิดยังสถานที่ดังกล่าว

ประเภทของนรกในพระไตรปิฎก

นรกที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ส่วนใหญ่จกระจายอยู่ตามพระสูตรต่าง ๆ ที่ปรากฏเป็นชื่อของนรกโดยตรงก็มี เช่น โลหกุมภีนรก เป็นต้น กล่าวถึงสภาพของนรกก็มี เช่น แม่น้ำเวตตรณี มีน้ำเป็นกรด หยาบแข็ง เผ็ดร้อน ข้ามได้ยาก ปกคลุมไปด้วยบัวเหล็กมีใบคมไหลไปอยู่ (ขุ.ชา. (ไทย) 28/1323/387) เป็นต้น ทำให้ยากต่อการศึกษา เรียบเรียงลำดับ และจัดเป็นประเภท ที่ปรากฏในอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และปกรณ์วิเสส การศึกษาให้เข้าใจได้ง่ายกว่าและสามารถบอกประเภท และจำนวนได้ด้วย มีหลักฐานเกี่ยวกับมหานรก 8 ขุม อุสสทนรก ซึ่งเป็นบริวารของมหานรก 8 ขุม และยมโลกนรก ซึ่งปรากฏในปกรณ์วิเสสประเภทจักรวาลวิทยาตามแนวพระพุทธศาสนา ดังนี้

มีมหานรกใหญ่อยู่ 8 ขุม ในมหานรกนี้ มีแต่ความโหดร้ายทารุณ ผู้ใดไปเกิดในนรกขุมหนึ่งขุมใดจะเป็นทุกขเวทนามิรู้จักจบสิ้น ในที่นี่กรมศิลปากร (2529: 16-17) ได้กล่าวว่า

นรกอันน่าสะพรึงกลัวนัก เป็นแดนสยดสยอง 8 ขุมเหล่านี้ คือ สัญชีวนรก 1, กาฬสุตตนรก 1, สังฆาตนรก 1, โรรุวนรก 1, มหาโรรุวนรก 1, ตาปนนรก 1, มหาตาปนนรก 1, อเวจีนรก 1 นรกเหล่านี้ 4 มุม 4 ประตู จำแนกไว้เป็นสัดส่วน มีกำแพงเหล็กล้อมโดยรอบ ถูกครอบมิดชิดด้วยเหล็ก พื้นของนรกเหล่านั้นปูด้วยแผ่นเหล็ก มีไฟรุ่งเรืองประกอบด้วยความร้อนแผ่ไปถึง 100 โยชน์โดยรอบ ดำรงอยู่ในกาลทั้งปวง เกลื่อนกล่นด้วยผู้มีกรรมชั่ว แต่ละขุมมีอุสสทนรก 16 ขุม อนึ่ง ภายในของนรกเหล่านั้น โดยกว้าง โดยยาวและส่วนสูง ปริมาณโดยรอบมีถึง 800 โยชน์ทีเดียว บัณฑิตพึงทราบอย่างนี้ แผ่นฝามีส่วนหนาประมาณ 9 โยชน์ ข้างบนมีแผ่นกระเบื้องทาด้วยเหล็ก แม้ข้างล่างก็มีพื้นเหล็กขนาดนั้น โดยรอบกับอุสสทนรกแต่ละขุมมีประมาณ 10,000 โยชน์ นรกเหล่านั้นมีประมาณ 10,000 โยชน์ทีเดียว นรกเหล่านี้พึงมี 3,600 ขุมโดยอำนาจการรวมทั้งหมด อนึ่ง ในทิศทั้ง 4 ของนรกทั้ง 8 ขุมเหล่านี้ แต่ละทิศมียมโลก (นรก) อยู่ทิศละ 10 แห่ง ยมโลก (นรก) 10 เหล่านี้ คือ หม้อโลหะ (โลหกุมภีนรก), ป่าไม้งิ้ว (ลิมพลีวันนรก), สัตว์มีเล็บเป็นดาบ (อสินขนรก) น้ำทองแดง (ตามโพทกนรก), สวนเหล็กแดง (อโยคุฬนรก), ภูเขาเนื้อ (ปิสสปัพพตนรก), แม่น้ำแกลบ (ถุสนทีนรก), แม่น้าเย็น (สีตโลลิตนรก), หมานรก (สุนขนรก), แผ่นศิลายนต์ (ยันตปาสาณนรก), อนึ่งในทิศแม้ทั้ง 4 ของมหานรก 8 ขุมเหล่านี้ มียมราช 4 ท่าน แม้อำมาตย์ชื่อสิริคุตก็มีจำนวน 4 ท่านเท่ากัน พยายมและอำมาตย์สิริคุตพิจารณาเรื่องควรและไม่ควร ตัดสินไปตามกรรม

อุสสทนรกเป็นบริวารมหานรกทั้ง 8 ล้อมรอบมหานรกละ 16 ขุม ดังนั้น จึงมีอุสสทนรกทั้งสิ้น 128 ขุม (16 คูณ 8 = 128) นอกจากนี้มหานรกทั้ง 8 มียมโลกนรกเป็นบริวารล้อมรอบขุมละ 40 ดังนั้น จึงมียมโลกนรกทั้งสิ้น 320 ขุม (40 คูณ 8 = 320)

อุสสทนรก และยมโลกนรก ในจักกวาฬทีปนี และโลกทีปกสารนั้น มีข้อความปรากฎถึงจำนวนนรกไว้ ซึ่ง (2523: 105-109, 2529: 16-17) พระสิริมังคลาจารย์ และพระสังฆราชเมธังกรได้กล่าวไว้ ดังนี้

นรกที่มีชื่อว่า อุสสทนรกและยมโลกนรก เป็นนรกมีชื่อปรากฏในคัมภีร์จักกวาฬทีปนีและโลกทีปกสาร 30 ขุม คือ

1. เวตรณีนทีนรก

3. สัญโชตตินรก

5. โลหกุมภีนรก

7. ถุสนทีนรก

9. โอรัพภิกาทินรก

11. อยโลหิตปุพพปุณณรหทนรก

13. อติจารินิตถีนรก

15. มิจฉาทิฏฐิกนรก

17. โกฏิสิมพลีนรก

19. ขาโรทกทีนรก

21. วาลเวฏฐมหายันตนรก

23. นิรัพพุทนรก

25. อัฏฏนรก

27. อุปปลนรก

29. คัพภปาตนนรก

2. สุนขนรก

4. อังคารกาสุนรก

6. โลหกุมภีนรก (อีกขุมหนึ่ง)

8. ตุทนนรก

10. มุตตกรีสปุณณรหทนรก

12. ถูฏการินรก

14. ชลิตอังคารปุณณนรก

16. ขุรธารินรก

18. มิคลุททกาฑินรก

20. ขุรสัญจิตนรก

22. อัพพุทนรก

24. อพัพพนรก

26. โสคันธิกนรก

28. ปทุมนรก

30. กุณปนรก

 

รวมมหานรก อุสสทนรก ยมโลกนรก และโลกันตนรก มีทั้งหมด 457 ขุม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ชื่อของนรกทั้งหมดนี้ เป็นการตั้งชื่อตามลักษณะของสถานที่ที่สัตว์นรกถูกลงโทษ ถ้ามีการตั้งชื่ออาณาเขตของมหานรกทั้งหมดทุกตารางพื้นที่จะมีชื่อนรกมากกว่านี้ เพราะมหานรกแต่ละขุมมีบริเวณใหญ่มาก นรกแต่ละขุม เรียกชื่อตามลักษณะของสถานที่ก็มี ตามลักษณะของการลงโทษของนายนิรยบาลก็มี ตามวัตถุสิ่งของ หรือสัตว์ที่อยู่เป็นประจำในนรกนั้นก็มี ตามบาปกรรมที่สัตว์นรกที่เคยทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ก็มี หลักฐานเกี่ยวกับการตั้งชื่อของนรกทั้งหลายรวบรวมได้ดังที่แสดงมาแล้ว

นรกโลกันต์ ซึ่งเป็นนรกอีกขุมหนึ่งที่มีความเผ็ดร้อน ทุกข์ทรมานนักหนา ซึ่ง พระสิริมังคลาจารย์ และพระสังฆราชเมธังกร ทั้งสองท่านกล่าวไว้ว่า

นรกอีกประเภทหนึ่ง คือ โลกันตนรก (นรกที่ตั้งอยู่ระหว่างโลกจักวาลทั้ง 3) นรกนี้อยู่ตรงรอยระหว่างจักรวาลนี้กับจักรวาลอื่น โลกันตนรกนั้นมีความมืดมนยิ่งนัก แสงดาวแสงเดือนและแสงตะวันส่องไปไม่ถึง เป็นสถานที่มืดมนอนธการ สามารถห้ามเสียซึ่งความบังเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ เปรียบปานดังคนหลับตาในคราวเดือนดับข้างแรม การที่มีสภาพมืดมากเช่นนี้ ก็เพราะอยู่นอกจักรวาล พ้นจากโลกสวรรค์โลกมนุษย์ออกไปนั่นเอง (ส.มหา. (ไทย) 19/1116/629)

นรกโลกันต์ เป็นนรกขุมใหญ่พิเศษซึ่งอยู่นอกจักรวาล มืดมนไม่มีแสง มองไม่เห็นอะไรเลยและเต็มไปด้วยทะเลน้ำกรดเย็น ที่ตั้งอยู่ระหว่างโลกจักรวาล 3 โลก เหมือนกับวงกลม 3 วงติดกัน บริเวณช่องว่างของวงทั้ง 3 สัตว์นรกที่มาเกิดในนรกชั้นนี้จะมีรูปร่างสูงใหญ่และมีเล็บแหลมคมมักจะห้อยหัวจากเพดานเหมือนคางค้าว ด้วยการมองอะไรไม่เห็นเพราะความมืดสนิททำให้สัตว์นรกซึ่งมีจำนวนมากต้องไต่ไปมาอย่างไร้จุดหมาย เมื่อหิวก็จะจับกันเองกินเป็นอาหาร เมื่อสัตว์นรกตกลงไปในน้ำซึ่งเป็นกรด น้ำก็จะกัดร่างกายจนแหลกเหลว แต่ไม่ตายเสียทีเดียวก็จะเกิดขึ้นมาใหม่และมาห้อยหัวบนเพดานเหมือนเดิมและต้องคอยเสาะหาอาหารต่อไป ต้องรับทุกขเวทนาเป็นเวลา 1 พุทธันดร จากผลกรรมชั่ว เช่น ทรมานประทุษร้ายต่อบิดามารดา และผู้ทรงศีล ทรงธรรมหรือทำปาณาติบาต เป็นอาจิณ ฆ่าตัวตาย เป็นต้น นรกโลกันต์เป็นนรกขุมที่ไม่มีแสงเลย แต่จะมีแสงเกิดขึ้นก็ต่อ เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา, เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ, เมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า, เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องธัมมจักรกัปปวัตนสูตร (ธรรมจักร) และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จปรินิพพาน

ในฏีกาปาตาลวรรค ปรากฏข้อความเกี่ยวนรกขุมหนึ่งชื่อว่า นรกกาฬสุตตะ โดยกรมศิลปากร (2523: 100) อธิบายว่า

นรกขุมใด นายนิรยบาลทำเครื่องหมายด้วยด้ายดำของช่างไม้แล้วใช้มีดถากร่างกายของสัตว์นรก(ตามแนวด้วย) เพราะเหตุนั้น นรกนั้นจึงมีชื่อว่า กาฬสุตตะ อรรถกถาสังกิจจชาดกว่า นายนิรยบาลร้องคำราม ถืออาวุธนานาชนิดอันโพลง ติดตามพวกสัตว์นรกไปมาบนแผ่นดินเหล็ก อันลุกโพลง ประหารแล้วให้ด้ายดำอันลุกโพลงตกลงไปยังสัตว์นรกผู้ล้มลงบนดินอันลุกโพลง นายนิรยบาลถือขวานอันลุโพลง คารามร้อง เฉือนพวกสัตว์นรกซึ่งร้องโหยหวนอยู่เป็น 8-16 ส่วน ตามแนวด้วยคำในนรกนี้ เพราะเหตุนั้น นรกนี้จึงชื่อว่า กาฬสุตตะ

มีลักษณะที่เพิ่มเติมจากนรกขุมที่แล้ว คือ สัตว์นรกในนรกขุมนี้จะถูกตีเส้นบนเนื้อตัวโดยยมบาลด้วยการนำเส้นเหล็กเผาไฟมานาบเป็นลายบนตัว และจะถูกผ่า เลื่อย หรือตัดตามเส้นนั้น สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสามหมื่นหกพันล้าน (36,000,000,000) ปีมนุษย์ หรือ1,000 พันปีนรก

ในฏีกาปาลวรรค มีข้อความปรากฏเรื่องนรกขุมหนึ่งเรียกว่า นรกอเวจี ซึ่ง กรมศิลปากร(2529: 18-19) กล่าวไว้ว่า

นรกชื่อว่า อวีจิ (อเวจี) เพราะไม่มีแม้วีจิ คือแม้เศษแห่งความสุขในนรกขุมนี้ หรือเพราะไม่มีวีจิคือความสุขในนรกขุมนี้...อรรถกถาสังกิจจชาดกว่า นรกขุมนั้นชื่อว่า มหาวีจิ แปลว่า วีจิใหญ่ในนรกนั้น เปลวไฟ ตั้งขึ้นจากฝาด้านตะวันออกเป็นต้น พุ่งตรงไปกระทบฝาด้านตะวันตกเป็นต้น และเปลวไฟนั้นทะลุฝากินเนื้อที่ออกไปข้างนอกอีก 100 โยชน์ เปลวไฟตั้งขึ้นข้างล่าง พุ่งขึ้นไปกระทบข้างบน ตั้งขึ้นข้างบน พุ่งไปกระทบข้างล่าง ชื่อว่าช่องว่างแห่งเปลวไฟ ไม่มีในนรกขุมนี้. . .

นรกขุมนี้มีกำแพงหกด้านอยู่ขุมหนึ่ง สัตว์นรกจะเคลื่อนไหวร่างกายมิได้เลยเพราะถูกอาวุธหรือหอกที่ร้อนตรึงไว้กับพื้นหมดในท่ายืนกางแขนและขา มีไฟลุกท่วมเหมือนเป็นการย่างสัตว์นรกนั้น นอกจากนี่ยังมีเตาเผาใหญ่ ยมบาลจะจับสัตว์นรกโยนลงไปย่างในเตาด้วย สัตว์นรกเหล่านี้ต้องรับโทษเป็นเวลา 1 กัลป์หรือคือเวลาอันประมาณมิได้

มีนรกอยู่ขุมหนึ่งที่มีเหล่าฝูงสุนักมากมาย เรียกว่า นรกสุนัข มีเหล่าสุนัข 4 จำพวก ซึ่ง กรมศิปากร (2528: 72-73) กล่าวว่า ในสุนขนรก สุนัขทั้งหลาย แต่ละตัวโตเท่าช้างขนาดใหญ่ มี 4 สีด้วยกัน คือ ด่าง ขาว ดำ และเหลือง ไล่กัดสัตว์นรกบนแผ่นดินเหล็กอันลุกโพลง ราวกะไล่เนื้อ ยังสรีระประมาณ 3 คาวุต (300 เส้น) ของสัตว์นรกเหล่านั้นให้ล้มลง ณ แผ่นเหล็กอันลุกโพลง...

สุนัขนรกนี้ เต็มไปด้วยสุนัข 4 พวก คือ หมานรกดำ หมานรกเหลือง หมานรกแดง หมานรกด่าง และยังมีฝูงแร้งกา นกตะกรุม สัตว์นรกที่เกิดจะถูกสุนัขไล่ขบกัด ฝูงแร้งกา จะจิกตรงลูกตา ปากและส่วนต่างๆ ได้รับทุกขเวทนาจากผลกรรมชั่วทางวจีทุจริต บุพกรรม คือ ด่าว่าบิดามารดา ปู่ย่าตายาย พี่ชายพี่สาว และญาติทั้งหลายไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็น ผู้เฒ่าผู้แก่ ตลอดจนพระภิกษุสงฆ์สามเณร

สำหรับประเภทของนรกนั้นพอสรุปได้ว่า นรกที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ส่วนใหญ่กระจายอยู่ตามพระสูตรต่าง ๆ อุสสทนรกเป็นบริวารมหานรกทั้ง 8 ล้อมรอบมหานรกละ 16 ขุม ดังนั้น จึงมีอุสสทนรกทั้งสิ้น 128 ขุม (16 คูณ 8 = 128) นอกจากนี้มหานรกทั้ง 8 มียมโลกนรกเป็นบริวารล้อมรอบขุมละ 40 ดังนั้น จึงมียมโลกนรกทั้งสิ้น 320 ขุม (40 คูณ 8 = 320) รวมมหานรก อุสสทนรก ยมโลกนรก และโลกันตนรก มีทั้งหมด 457 ขุม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ชื่อของนรกทั้งหมดนี้ เป็นการตั้งชื่อตามลักษณะของสถานที่ที่สัตว์นรกถูกลงโทษ นรกโลกันต์ ตั้งอยู่ระหว่างโลกจักรวาล 3 โลก มีอายุ 1 พุทธันดร เป็นนรกขุมที่ไม่มีแสงเลย แต่จะมีแสงเกิดขึ้นก็ต่อ เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา, เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ, เมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า, เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องธัมมจักรกัปปวัตนสูตร (ธรรมจักร) และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จปรินิพพาน อเวจีนรก นรกขุมนี้มีกำแพงหกด้านอยู่ขุมหนึ่ง สัตว์นรกจะเคลื่อนไหวร่างกายมิได้เลยเพราะถูกอาวุธหรือหอกที่ร้อนตรึงไว้กับพื้นหมดในท่ายืน มีไฟลุกท่วมเหมือนเป็นการย่างสัตว์นรก นอกจากนี่ยังมีเตาเผาใหญ่ ยมบาลจะจับสัตว์นรกโยนลงไปย่างในเตาด้วยอายุยืน 1 กัป สุนัขนรกนี้ เต็มไปด้วยสุนัข 4 พวก คือ หมานรกดำ หมานรกเหลือง หมานรกแดง หมานรกด่าง และยังมีฝูงแร้งกา นกตะกรุม สัตว์นรกที่เกิดจะถูกสุนัขไล่ขบกัด ฝูงแร้งกา จะจิกตรงลูกตา ปากและส่วนต่างๆ

ลักษณะของนรกในพระไตรปิฎก

นรกขุมต่าง ๆ ที่สัตว์อุบัติเกิดในนรก มหานรก นรกขุมใหญ่ได้นามบัญญัติว่า มหานรก มีอยู่ทั้งหมด 8 ขุมด้วยกัน ตั้งซ้อนเรียงรายกันอยู่เป็นชั้น ๆ ไป โดยมีรายนามตามที่ท่านบัญญัติไว้ดัง ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ ดังต่อไปนี้

. . . คนผู้ประพฤติล่วงธรรมทั้งหลายมีชีวิตไม่ราบรื่น ตายไปแล้วจะไปสู่คติในนรก . . . คือ 1. สัญชีวนรก, 2. กาฬสุตตนรก, 3. สังฆาฏนรก, โรรุวนรก 2 คือ (4. ชาลโรรุวนรก, 5. ธูมโรรุวนรก) 6. ตาปนนรก, 7. ปตาปนนรก, 8. อเวจีมหานรก นรก 8 ขุมเหล่านี้บัณฑิตกล่าวว่า ก้าวพ้นได้โดยยากเกลื่อนกล่นไปด้วยเหล่าสัตว์ผู้มีกรรมหยาบช้า แต่ละขุมๆ มีอุสสทนรก 16 ขุมเป็นบริวาร เป็นนรกที่โหดร้าย เผาผลาญเหล่าสัตว์ ผู้ตระหนี่เหนี่ยวแน่นให้เร่าร้อนเป็นมหาภัย มีเปลวไฟลุกโพลง น่าขนพองสยองเกล้า น่าสะพรึงกลัว มีภัยเฉพาะหน้า มีแต่ทุกข์ (ขุ.ชา. (ไทย) 28/82-84/47)

ผู้ที่ไม่อยู่ในศีลในธรรมมีชีวิตไม่ราบรื่น ตายไปแล้วตกนรกภายใน 8 ขุมนี้ คือ 1. สัญชีวนรก, 2. กาฬสุตตนรก, 3. สังฆาฏนรก, 4. ชาลโรรุวนรก, 5. ธูมโรรุวนรก, 6. ตาปนนรก, 7. ปตาปนนรก, 8. อเวจีมหานรก หนีกรรมชั่วที่ทำไว้ไม่พ้น เพราะมีอุสสทนรก 16 ขุมเป็นบริวารล้อมรอบ เป็นนรกที่โหดร้าย มีเปลวไฟลุกอยู่เป็นนิจ มีแต่ทุกข์

ในนรกขุมต่าง ๆ นั้น ผู้ไปเกิดในมหานรก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 8 ขุม ตั้งเรียงรายกันเป็นชั้น ๆ ลึกลงไปในพื้นโลกเรานี้ โดยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

มหานรกทั้ง 8 ขุมนี้มีคำแปลและความหมาย ดังนี้ 1. สัญชีวนรก นรกที่ตายแล้วฟื้น หมายถึง สัตว์นรกในนรกนี้ถูกสับถูกฟันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วกลับฟื้นขึ้นมาบ่อยๆ 2. กาฬสุตตนรก นรกสายบรรทัดเหล็ก หมายถึง สัตว์นรกวิ่งไปบนแผ่นเหล็กแดง ถ้าล้มลงจะถูกดีดด้วยสายบรรทัดเหล็กแดง 3. สังฆาฏนรก นรกที่ถูกบดหรือหนีบ หมายถึง มีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟกลิ้งมาบดขยี้สัตว์ในนรกนี้ 4. ชาลโรรุวนรก นรกที่สัตว์ร้องไห้เพราะเปลวไฟ หมายถึง นรกที่มีเปลวไฟพุ่งวูบเข้าทางทวารทั้ง 9 เผาสัตว์นรกตลอดเวลา 5. ธูมโรรุวนรก นรกที่สัตว์ร้องไห้เพราะควันไฟ หมายถึง นรกที่มีควันไฟรมสัตว์นรกทางทวารทั้ง 9 อยู่ตลอดเวลา 6. ตาปนนรก นรกที่ทำให้ร้อน หมายถึง พวกสัตว์นรกในนรกนี้จะถูกแทงด้วยหลาวเหล็กเท่าลำตาลลุกเป็นไฟ 7. ปตาปนนรก นรกที่ทำให้ร้อนมาก หมายถึง สัตว์นรกในนรกนี้ถูกไล่ตีหนีขึ้นไปบนภูเขา บนกำแพงที่ร้อน ตกลงมาถูกหลาวเหล็กเสียบแทง 8. อเวจีมหานรก นรกที่ไม่มีเวลาว่าง หมายถึง นรกที่มีเปลวไฟพลุ่งออกมาจากทิศทั้ง 4 เผาสัตว์นรกอยู่ตลอดเวลา มหานรกทั้ง 8 ขุมนี้ แต่ละขุมมีประตู 4 ด้าน ประตูหนึ่งๆ มีอุสสุทนรก (นรกบริวาร) ด้านละ 4 มหานรกขุมหนึ่งๆ จึงมีอุสสุทนรก 16 แห่ง มหานรก 8 ขุมมีอุสสุทนรก 128 รวมกับมหานรก 8 เป็น 136 ขุม (ขุ.ชา.อ. (ไทย) 8/83-84/111-114 )

นรกทั้ง 8 ขุมนี้ มีความโหดร้าย น่ากลัวรอผู้ไปเกิดในนรกแต่ละขุม สัญชีวนรก ผู้ไปเกิดแม้ว่าจะได้รับทุกข์โทษจนตายแล้ว ก็กลับฟื้นขึ้นมาอีก กาฬปุตตนรก นรกขุมนี้มีกรรมหนักกกว่า แล้วก็มีอายุมากกว่า ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ ย่อมถูกลงโทษโดยยมบาลพากันเอาเส้นเหล็กเเดงลุกเป็นไฟมาตีให้เป็นเส้นดำเข้าตามร่างกาย แล้วก็เอาเลื่อยนรกมาเลื่อย ไปตามรอยเส้นดำที่ตีไว้นั้น สังฆาฏนรก ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ ถูกลงโทษโดยถูกภูเขาเหล็กแดงกลิ้งไปกลิ้งมา กลิ้งเข้าหากัน บดบรรดาสัตว์ทั้งหลายให้แหลกเหลวไป สัตว์ทั้งหลายก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ โรรุวมหานรก มีดอกบัวเหล็กใหญ่มาก กลีบก็เป็นเหล็ก มีไฟลุกแดงตลอดเวลา ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ จะถูกบังคับให้ขึ้นไปบนดอกบัวกลีบบัวก็บานขึ้นเป็นเหล็กแดงมีไฟพวยพุ่งออกมาจากกลีบตลอดเวลา มหาโรรุวนรก นรกขุมนี้ ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ ถูกลงโทษโดยวิธีให้ยืนแข็งทื่ออยู่ในดอกบัวเหล็กบานสะพรั่ง ใกล้ ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้น มีไฟลุกโชนเหมือนกัน ดอกบัวขุมนี้กลีบแต่ละกลีบคมมากกว่าขุมก่อน ร้อนแรงมากกว่าสัตว์นรกขึ้นไปบนนั้นแล้วถูกความร้อนเผา เต้นไปเต้นมากลีบดอกบัวมันก็บาดเข้าไปในเนื้อไฟก็เผาชะแลบแล่เนื้อหนังหล่นลงมา หมานรกก็คอยกินเนื้อหนังสัตว์เหล่านั้น รุมแทะเหลือแต่กระดูก ร่างกายก็รวมเข้าเป็นกายใหม่ ยมบาลก็ลงโทษวนเวียนอยู่เช่นนี้ ตาปนรก ผู้เกิดในนรกในขุมนี้ ถูกลงโทษโดยวิธีถูกย่างให้ร้อนบนปลายหลาวเหล็กซึ่งโตเท่าลำตาลไล่เสียบไล่แทงบรรดาสัตว์ทั้งหลาย มันเสียบแทงสัตว์ทั้งหลายแล้วก็ตั้งขึ้นไว้ไฟก็ไหม้เนื้อหนังหล่นลงมาถูกพื้นเหล็กแดงเป็นเพลิงร้อนจัด สุนัขตัวใหญ่ ๆ พากันวิ่งมากัดกินเนื้อ แทะกระดูกอีก แต่ก็ตายไม่ได้ เพราะว่าเขาเอามาเพื่อทรมาน มหาตาปนนรก ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ มีกำแพงกั้นทุกด้านมีไฟพุ่งเข้ามาทุกด้าน เหมือนกับนรกขุมอื่น แต่ทว่าไฟนี้เป็นแสงสว่าง มีความร้อนแรงมาก มีภูเขาเหล็ก ตั้งอยู่ระหว่างขุมนรก ไฟพุ่งมาทุกทิศพุ่งเข้ามารวมกันในจุดกลาง อเวจีมหานรก นรกขุมนี้มีอายุ 1 กัป การลงโทษของนรกขุมนี้มีเป็นพิเศษกว่านรกตั้งแต่ขุมที่ 1 ถึงขุมที่ 7 สัตว์นรกเหล่านั้นยืนแล้วมีกำแพงทั้ง 6 ด้าน ด้านข้าง 4 ด้าน ข้างบนข้างล้าง ไฟก็พุ่งมาทั้ง 6 ทิศ หอกทั้งเบื้องล้างเบื้องบน มีหอกฝังอยู่กำแพงด้านบน ถูกเสียบด้วยหอกหลายสิบเล่มไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ นรกขุมนี้มีเปลวไฟนรกปรากฏอยู่ตลอดเวลา

นรกขุมนี้ชื่อว่า กาฬสุตตนรก ซึ่ง พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

มี 4 มุม มีประตู 4 ด้านจัดไว้เหมาะสมตามสัดส่วน มีกำแพงเหล็กล้อมรอบ มีเหล็กครอบไว้ด้วย ภาคพื้นของนรกเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นเหล็ก มีไฟลุกโชน มีความร้อนแผ่ซ่านไปตลอด 100 โยชน์โดยรอบ ตั้งอยู่ในกาลทุกเมื่อ คนผู้กล่าวล่วงเกินฤาษีทั้งหลาย ผู้สำรวม ผู้มีตบะเหล่านั้น ย่อมตกนรก มีเท้าชี้ขึ้นเบื้องบน มีศีรษะปักลงเบื้องล่าง คนเหล่านั้นผู้มีปกติกระทำกรรมหยาบช้า มีความเจริญถูกขจัดแล้ว เหมือนปลาที่ถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ย่อมหมกไหม้อยู่ในนรกตลอดปีนับไม่ถ้วน มีกายถูกไฟเผาไหม้ทั้งภายในทั้งภายนอกอยู่เป็นนิตย์ แสวงหาทางออกจากนรก ก็ไม่พบประตูที่จะออก . . . นับเป็นเวลาหลายพันปี . . . (ขุ.ชา. (ไทย) 28/85-93) ถ้าว่าคนใดมีใจประทุษร้ายเพ่งเล็งมุนีผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เขาก็จะไปสู่นรกเบื้องต่ำ ชนเหล่าพยายามพูดคำหยาบคาย ด่าว่าผู้เฒ่าชนเหล่านั้นจะไม่มีที่พึ่ง ไม่มีทายาท เป็นเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคน อนึ่ง คนใดฆ่าบรรพชิตผู้ทำกิจเสร็จแล้วผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ คนนั้นย่อมหมกไหม้อยู่ในกาฬสุตตนรกตลอดราตรีนาน คนใดเป็นคนต่ำช้า ฆ่าบิดาเพราะความโลภหรือความโกรธ คนนั้นย่อมหมกไหม้ในกาฬสุตตนรกตลอดราตรีนาน (ขุ.ชา. (ไทย) 28/100-102,107/49-50)

กาฬสุตตนรกนั้น ตั้งอยู่ในภายใต้สัญชีวนรกลงไป มีสายบรรทัดเหล็ก สำหรับดีดกายแห่งสัตว์นรกทั้งหลายให้ย่อยยับไป ในกาฬสุตตนรกนั้น มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยกว้างยาวและลึกได้ 100 โยชน์ มีฝาผนังทั้ง 4 ด้าน เหล็กหนา 9 โยชน์ ฝาปิดด้านบน และพื้นล่าง มีประตู 4 ประตู ด้านละประตูๆ มียมบาลประจำอยู่ทุกด้านทุกประตู ลงโทษสัตว์นรกทั้งหลาย มัดด้วยพวนเหล็ก ผูกขึงลงไว้กับแผ่นดินเหล็ก ที่ลุกเป็นเปลวเพลิงนั้น แล้วก็เอาสายบรรทัดเหล็กใหญ่ เท่าลำตาลดีดลง กายสัตว์นรกก็แตกผ่าตลอดถึงข้างหลัง เพลิงที่แผ่นดินเหล็กนั้นก็ไหม้ กรรมยังไม่สิ้นตายแล้วก็กลับเป็นขึ้นมาอีก สัตว์นรกบางจำพวกนั้น ยมบาลทั้งหลาย จับมัดลงไว้แล้วก็ฟันด้วยขวาน การกระทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เป็นคนใจบาป มีโทสะมาก ผูกมัดสัตว์มีชีวิต บางทีใช้คนอื่นให้ผูกมัดสัตว์มีชีวิต ให้สัตว์ตายโดยความลำบาก บางทีผูกมัดจำจองบุคคลที่ตนโกรธนั้น ทำให้ได้รับความลำบากจนถึงแก่ความตาย คนเหล่านี้ตายลงนรกกาฬสุตต นาน 1,000 ปีนรก วันหนึ่งคืนหนึ่งในกาฬสุตตนรก ถ้าจะคิดเป็นปีในมนุษย์นี้ได้ 3 โกฏิกับ 6 ล้านปี และ 3 โกฏิกับ 6 ล้านปี 30 หน จึงเป็นเดือนหนึ่งในกาฬสุตตนรก 12 เดือนจึงเป็นหนึ่งปี อกุศลกรรมยังไม่สิ้น ก็เลื่อนออกไปตกในอุสุทนรก และยมโลกิกนรก ที่เป็นบริวารแห่งกาฬสุตตนรกนั้น

แดนเครือหวายนี้ เป็นนรกขุมหนึ่งที่พวกฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ได้มาบังเกิดขึ้น มีลักษณะดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

หญิงที่รีดลูกทั้งหลายจะต้องย่างเหยียบนรกบนคมมีดโกนอันคมกริบที่ไม่น่ารื่นรมย์ แล้วตกไปยังแม่น้ำเวตตรณี ซึ่งข้ามไปได้ยาก ต้นงิ้วทั้งหลายล้วนแต่เป็นเหล็ก มีหนามยาว 16 องคุลีห้อยย้อยปกคลุมแม่น้ำเวตตรณี ซึ่ง ข้ามไปได้ยากทั้ง 2 ฝั่ง สัตว์นรกเหล่านั้นมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นไปเบื้องบนหนึ่งโยชน์ มีกายเร่าร้อนด้วยไฟที่เกิดเอง ยืนอยู่เหมือนกองไฟที่ตั้งอยู่ในที่ไกล (ขุ.ชา. (ไทย) 28/119-121/52)

นรกขุมนี้ดู ๆ แล้วก็ไม่เหมือนนรกเท่าไร เพราะว่ามีน้ำใสสะอาด มองแล้วเห็นลึกลงไปจนกระทั้งเกือบถึงพื้นดินข้างล้าง บรรดาสัตว์ทั้งหลายโดนทรมานจากนรกขุมต่าง ๆ มาแล้ว ต่างก็คิดว่าเวลานี้เราพ้นทุกข์แล้ว ต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอิสรภาพมีสำหรับเรา บรรดาสัตว์ทั้งหลายอาศัยที่มีความร้อนเผาผลาญมานาน แล้วก็มีความกระหายน้ำมีความร้อนกลุ้มใจอยากจะอาบน้ำมานาน พอเห็นแม่น้ำใสมีอยู่ข้างหน้าต่างก็พากันดีใจ เราจะกินน้ำให้สบายจะว่ายน้ำดำหัวเล่นให้สบาย สมกับที่เราลงโทษมาจากกองไฟสิ้นเวลากาลนาน เมื่อสัตว์ทั้งหลายดำริดังนี้แล้ว มันใกล้แม่น้ำเข้าไปก็วิ่ง ดีใจ มีความรื่นเริงบันเทิงใจวิ่งลงไปปรารถนาจะกระโดดลงไปในน้ำ เมื่อไปถึงแม่น้ำ ก็มีต้นหวายใหญ่มีหนามยาวแหลมคมมาก ไม่รู้ว่ามันปรากฏขึ้นมาตอนไหน มันโผล่ขึ้นมาขวางไว้ สัตว์ทั้งที่โดดลงไปก็ค้างอยู่บนหวาย หวายหนามนั้นกลายเป็นหวายเหล็กที่ถูกไฟเผาจนแดงโชน คมของหนามหวายมันก็ทิ่มมันก็แทง ความร้อนและความเจ็บปวดทำให้สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นดิ้นรน ดิ้นไปดิ้นมา ในที่สุดก็หล่นลงไปในน้ำ น้ำที่ใสสะอาด แต่กับกลายเป็นน้ำกรด เมื่อสัตว์เหล่านั้นหล่นลงไป น้ำกรดกัดแสบเป็นแผลไปหมดทั้งตัว ต่างก็พากันว่ายหนีน้ำกรด ว่ายไปว่ายมาไม่รู้จะขึ้นที่ไหน หวายมันก็กั้นเข้าไว้ และก็มีดอกบัวโผล่ขึ้นมาในระหว่างกลางแม่น้ำดอกใหญ่ ๆ บรรดาสัตว์เหล่านั้นก็ดีใจ ได้พากันปีป่ายขึ้นไปบนดอกบัว พอขึ้นไปได้แล้วดอกบัวที่เห็นว่าเป็นดอกบัวธรรมดานั้นได้กลายเป็นดอกบัวเหล็กกลีบก็เป็นเหล็ก มีความคมมาก มันก็เลยบาดเอาเนื้อบาดตัวเอาขยับเขยื้อนไม่ได้ มันมีความคมเป็นกรดบาดเสียเนื้อหนังหลุด เหวอะหวะไปหมดทั้งตัว บรรดาสัตว์ทั้งหลายทนเจ็บต่อความเจ็บปวดทุกทรมานไม่ไหว ก็พากันกระโดดจากดอกบัวหนีลงไปในน้ำ ก็ต้องเจอกับความแสบของน้ำกรดเข้าอีก คราวนี้สัตว์ทั้งหมดก็คิดว่าจะดำน้ำหนีลงไปข้างล่าง ดำลงไปถึงพื้นข้างล่างก็ไปพบหอกดาบทิ่มแทงเข้าให้อีก เป็นอันว่าสัตว์นรกทั้งหมด ไม่พ้นจากความทุกข์ทรมานจากนรกขุมนี้ ไม่ทราบว่านานเท่าไร มาถึงนี่แล้ว ขอให้ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายได้รับทราบไว้ว่า อุสสุทนรกซึ่งล้อมรอบเป็นบริวารชั้นในแห่งมหานรกมีอยู่ทั้งหมด ๑๒๘ ขุม และมีชื่ออยู่ ๔ ชื่อนี้เท่านั้น

ในนรกโลหกุมภี หรือเรียกว่า แดนกระทะเหล็ก พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า

คนผู้ใดฆ่าบิดาเช่นนั้นจะต้องหมกไหม้อยู่ในโลหกุมภีนรก และนายนิรบาลทั้งหลายจะใช้หอกแทงเขาผู้ถูกต้มจนไม่มีหนัง ทำให้ตาบอด ให้กินปัสสาวะและอุจจาระเป็นอาหาร แล้วกดคนเช่นนั้นให้จมลงในน้ำกรด นายนิรบาลบังคับให้สัตว์นรกกินน้ำอุจจาระที่ร้อนเดือดพล่าน แล้ก้อนเหล็กแดงที่มีไฟลุกโชนถือเอาผาลที่ยาวและร้อนอยู่ตลอดราตรีนานงัดปาก เมื่อปากเปิดอ้าจึงใช้เบ็ดที่ผูกสายเชือก (ดึงลิ้นออกมา) แล้วจึงยัด( เหล็กแดง) เข้าไป ฝูงสุนัขดำ ฝูงสุนัขด่าง ฝูงนกแร้ง ฝูงกาป่า และฝูงนกปากเหล็ก พากันรุมจิกกัดสัตว์นรกผู้กำลังดิ้นทุรนทุรายแบ่งกันกินเป็นอาหารพร้อมทั้งเลือด (ขุ.ชา. (ไทย) 28/108-110/50-51)

ผู้ใดฆ่าพ่อบังเกิดเกล้า ผู้นั้นต้องตกลงสู่นรกโลหกุมภี มียมบาลลงโทษโดยใช้หอกแทง แล้วยังถูกต้มให้เปื่อยเหลือแต่กระดูก ยมบาลบังคับให้กินน้ำปัสสาวะ อุจจาระที่ร้อน จากนั้นก็จับอ้างปากเอาเบ็ดเกี่ยวลิ้นดึงออกมาแล้วใช้เหล็กที่เผาไฟจนแดงยัดเข้าไปในปาก จากนั้นพวกฝูงสุนัข ฝูงแร้ง กา นกปากเหล็ก พากันมารุมจิกกัดกินผู้คนเหล่านั้น

ผู้ใดฆ่ามารดาของตัวเอง ผู้นั้นต้องตกนรกโลหกุมภี ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

อนึ่ง บุตรฆ่ามารดา ตายจากโลกนี้ไปแล้วเข้าถึงที่อยู่ของพญายมต้องเสวยทุกข์อย่างร้ายแรงด้วยผลกรรมของตน นายนิรบาลทั้งหลายที่มีพละกำลังอย่างยิ่งจะใช้ขนหางสัตว์ที่เป็นลวดเหล็กแดงมัดบีบคั้นสัตว์นรกที่ฆ่ามารดาผู้ให้กำเนิดอยู่เสมอๆ บังคับให้สัตว์นรกนั้นผู้ฆ่ามารดาดื่มเลือดที่มีอยู่ในตนที่ไหลออกจากร่างกายของตน ซึ่งร้อนปานประหนึ่งน้ำทองแดงที่ละลายคว้าง สัตว์นรกนั้นลงสู่ห้วงน้ำที่คล้ายน้ำหนองน้ำเลือด มีโคลนตม คูถอันน่าเกลียด มีกลิ่นเหม็นเน่าดุจซากศพ แล้วยืนอยู่ ณ ห้วงน้ำนั้น หมู่หนอนปากเหล็ก . . . ชอนไชเนื้อและเลือด กัดกินสัตว์นรกนั้น ก็สัตว์นรกนั้นตกถึงนรกแล้วก็จมลงไปประมาณ 100 ช่วงคน ซากศพอันเน่าก็เหม็นฟุ้งตลบไปโดยรอบตลอด 100 โยชน์ . . . (ขุ.ชา. (ไทย) 28/112-117/51-52)

ผู้คนเหล่าใด ฆ่าแม่ตัวเอง หลังจากตายไปตกนรกโลหกุมภี ยมบาลลงโทษโดยใช้ขนหางสัตว์ที่เป็นลวดเหล็กผูกมัด แล้วบังคับให้ดื่มเลือดของตัวเอง ซึ่งร้อนเหมือนน้ำเหล็กแดง จากนั้นยมบาลก็จับโยนลงสู้บ่อน้ำเลือดน้ำหนองที่มีกลิ่นเหม็นเหมือนศพกำลังเน่า เมื่อยืนอยู่ในน้ำนั้นก็จะมีหนอนปากเหล็กคอยกัดกิน จากนั้นก็จมลงสู่ก้นบ่อ ซึ่ง 100 ช่วงคนต่อกัน

หญิงใดนอกในสามี ชายใดนอกใจภรรยาตัวเองและชู้นั้นเป็นภรรยาผู้อื่น ตายไปตกนรกโลหกุมภี ซึ่งปรากฎข้อความในพระไตรปิฎกว่า

หญิงผู้ประพฤตินอกใจสามีก็ดี ชายผู้คบชู้กับภรรยาคนอื่นก็ดี พวกเขาเหล่านั้นต้องตกอยู่ในนรกอันเร่าร้อนมีหนามแหลมคม สัตว์นรกเหล่านั้นถูกอาวุธทิ่มแทงก็กลิ้งกลับเอาศีรษะลงเบื้องล่าง ตกลงไปเป็นจำนวนมาก ถูกหลาวเหล็กทิ่มแทงร่างกายจนนอนตื่นอยู่ตลอดกาลอันยาวนาน ต่อแต่นั้น เมื่อราตรีสว่างแล้ว สัตว์นรกทั้งหลายก็ถูกนายนิรบาลซัดเข้าไปยังโลหกุมภีนรกอันใหญ่ อุปมาดังภูเขามีน้ำร้อนอันเปรียบได้กับไฟ (ขุ.ชา. (ไทย) 28/122-124/52)

หญิงชายเหล่าใด หญิงนอกใจสามี ชายเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น ผู้คนเหล่านี้ หลังจากตายไปแล้วต้องตกนรกที่ร้อนแรง อีกทั้งมีหนามแหลม ถูกยมบาลใช้อาวุธต่างทำร้ายกลิ้งไปมาเอาหัวลง ถูกหลาวทิ่มแทงร่างกาย แต่ไม่ตาย จากนั้นยมบาลก็จับพวกเขาทั้งหลายโยนลงสู่นรกโลหกุมภีต่อไป

อนึ่ง ภรรยาที่เขาไถ่มาด้วยทรัพย์ดูหมิ่นสามีหรือแม่ผัว พ่อผัวหรือแม้พี่ชาย พี่สาวของสามี นายนิรบาลทั้งหลายจะเอาเบ็ดเกี่ยวปลายลิ้นของเธอดึงออกมาพร้อมทั้งสายเบ็ด เธอเห็นลิ้นของตนยาวประมาณ 1 วา เต็มไปด้วยหนอนไม่อาจจะบอกใครให้ทราบได้จึงตายหมกไหม้อยู่ในตาปนรก (ขุ.ชา. (ไทย) 28/126-127/53)

ผู้หญิงที่ถูกไถ่มาจากการเป็นทาสดูถูกดูหมิ่นสามี แม่สามี พ่อสามี พี่ชาย พี่สาวของสามี ครั้นตายไปต้องตกนรก โดยมียมบาลลงโทษด้วยการเอาเบ็ดเกี่ยวลิ้นแล้วดึงออกมา ลิ้นเต็มไปด้วยหนอน เมื่อลงก็จะตกลงสู่นรกตาปนานจนกว่าจะหมดกรรมนั้น

ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น โลหกุมภีนรก เป็นหม้อเหล็กขนาดใหญ่เท่าภูเขา เต็มไปด้วยโลหะเหลวแสบร้อนเดือดพล่านตลอดเวลา สัตว์ที่เกิดต้องรับทุกข์ทั้งแสบทั้งร้อน เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส ถูกต้มเคี้ยวในหม้อเหล็กนรกนั้นจนกว่าจะสิ้นกรรมชั่วที่ตนได้ทำมา บุพกรรม เช่น จับสัตว์เป็นๆ มาต้มในหม้อน้ำร้อน แล้วเอามากินเป็นอาหาร

อุสสุทนรก นี้ เป็นบริวารชั้นในของมหานรก 8 ขุม ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า

พวกคนฆ่าแพะ ฆ่าสุกร จับปลา ดักสัตว์ พวกโจร พวกคนฆ่าวัว พวกนายพราน และพวกที่กล่าวอ้างโทษว่าเป็นคุณ พวกเขาจะถูกนายนิรบาลทั้งหลายเข่นฆ่าด้วยหอก ด้วยค้อนเหล็ก ด้วยดาบ ด้วยลูกศร และศีรษะจะปักดิ่งลงไปยังแม่น้ำกรด ส่วนคนผู้ตัดสินคดีไม่เป็นธรรมจะถูกพวกนายนิรบาลทุบตีด้วยค้อนเหล็กทุกเย็นเช้า ต่อแต่นั้นจะต้องกินอาเจียนที่สัตว์นรกเหล่าอื่นคายออกที่มีอัตภาพลำบากทุกเมื่อ ฝูงกา ฝูงสุนัขจิ้งจอก ฝูงแร้ง และฝูงกาป่าปากเหล็ก ก็พากันรุมจิกกัดกินสัตว์นรก ผู้กระทำกรรมหยาบช้า ซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ เหล่าชนผู้เป็นอสัตบุรุษใช้ธุลีฉาบปกปิดร่างกาย ฆ่าเนื้อด้วยต่อหรือฆ่านกด้วยต่อ ชนเหล่านั้นต้องไปตกอุสสทนรก (ขุ.ชา. (ไทย) 28/128-132/53-54)

อุสสุทนรก นี้ ล้อมรอบเป็นบริวารชั้นในแห่งมหานรกในทิศทั้ง 4 ทิศ ๆ ละ 4 ขุม มหานรกขุมหนึ่ง ๆ มีอุสสุทนรกล้อมรอบ 16 ขุม เพราะฉะนั้น อุสสุทนรกนี้ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดมากถึง 128 ขุม ซึ่งมีแสดงไว้ 4 ขุมนรก ดังนี้ คูถนรก, กุกกุฬนรก, อสิปัตตนรก และเวตรณีนรก

โลหกุมภีนรกนั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงความน่าเวทนาว่า

. . . นายนิรยบาลจับเขาเอาเท้าขึ้น เอาศีรษะลง เอวมีดเฉือน ฯลฯ จับเขาเทียมรถแล่นกลับไปกลับมาบนพื้นดินอันร้อนลุกเป็นเปลว โชติช่วง ฯลฯ บังคับเขาขึ้นลงภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่ที่ไฟลุกโชน ฯลฯ จับเขาเอาเท้าขึ้น เอาศีรษะลง ทุ่มลงในโลหกุมภีอันร้อนแดงเป็นแสงไฟ เขาถูกต้มเดือดจนตัวพองในโลหกุมภีนั้น เขาเมื่อถูกต้มเดือดจนตัวพองในโลหกุมภีนั้น บางครั้งลอยขึ้น บางครั้งจมลง บางครั้งลอยขวาง เขาเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อนอยู่ในโลหกุมภีอันร้อนแดงนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป นายนิรบาลจึงทุ่มเขาลงใมหานนรก ก็มหานรกนั้น มี 4 มุม 4 ประตู แบ่งออกเป็นส่วนมีกำแพงเหล็กล้อมรอบ ครอบด้วยฝาเหล็ก ลุกโชนโชติช่วงแผ่ไปไกลด้านละ 100 โยชน์ . . . เปลวไฟแห่งมหานรกนั้น ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศตะวันออกจรดฝาด้านทิศตะวันตก ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศตะวันตกจรดฝาด้านทิศตะวันออก ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศเหนือจรดฝาด้านทิศใต้ ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศใต้จรดฝาด้านทิศเหนือ ลุกโพลงขึ้นจากเบื้องล่างจรดเบื้องบน ลุกโพลงขึ้นจากเบื้องบนจรดเบื้องล่าง เขาเสวยทุกขเวทนากล้าหนัก เผ็ดร้อนอยู่ในมหานรกนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป (ม.อุ. (ไทย) 14/267-268/341-315)

ยมโลกนรกขุมที่ 1 มีชื่อว่าโลหกุมภี ในนรกขุมนี้ มีหม้อเหล็กขนาดใหญ่เท่าภูเขา เต็มไปด้วยน้ำแสบน้ำร้อนเดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา ตั้งอยู่บนเตาไฟใหญ่ ยมบาลร่างกายใหญ่โต จับสัตว์นรกที่ข้อเท้า เอาหัวคว่ำลงแล้วหย่อนทิ้งลงไปในหม้อเหล็กนรก สัตว์นรกทั้งหลาย ถูกต้มเคี่ยวอยู่ในหม้อเหล็กนรก จนกว่าจะสิ้นกรรมชั่วที่ตนได้กระทำมา บางทียมบาล ก็เอาเชือกเหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟ ไล่กระหวัดรัดคอ และบิดจนกระทั่งคอขาดออกจากตัว และก็เอาศีรษะที่ขาดนั้นลงทอดในหม้อเหล็กแดง แต่ก็หาได้ตายลงไปไม่ แล้วก็เกิดหัวใหม่ขึ้นมาแทน ทำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายจนกว่า จะสิ้นโทษพ้นเวรกรรมที่ทำมา

ปรากฎข้อความเรื่องนรกคูถอยู่ในพระไตรปิฎกว่า

. . . รอบๆ มหานรกนั้นมีคูถนรกขนาดใหญ่อยู่ เขาตกลงในคูถนรกนั้นในคูถนรกนั้นแล สัตว์ปากเข็มทั้งหลายย่อมเจาะผิว เจาะผิวแล้วจึงเจาะหนัง เจาะหนังแล้ว จึงเจาะเนื้อ เจาะเนื้อแล้ว จึงเจาะเอ็น เจาะเอ็นแล้ว จึงเจาะกระดูก เจาะกระดูกแล้ว จึงกินเยื่อในกระดูก เขาเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อน อยู่ในมหานรกนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป รอบๆ คูถนรกนั้น มีกุกกุลนรก ขนาดใหญ่อยู่ เขาตกลงในกุกกุลนรกนั้น จึงเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อน อยู่ในกุกกุลนรกนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป รอบๆ กุกกุลนรกนั้น มีป่างิ้วขนาดใหญ่สูง 1 โยชน์ มีหนามยาว 16 องคุรี ร้อนแดงลุกเป็นแสงไฟ นายนิรบาลบังคับเขาขึ้นลงที่ป่างิ้วนั้น เขาเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อน อยู่ในป่างิ้วนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป รอบๆ ป่างิ้วนั้นมีป่าไม้ที่มีใบเป็นดาบขนาดใหญ่อยู่ เขาเข้าไปในป่าที่มีใบเป็นดาบนั้น ใบไม้ที่เป็นดาบถูกลมพัดแล้วจะตัดมือเขาบ้าง ตัดเท้าบ้าง ตัดมือและเท้าบ้าง ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดหูและตัดจมูกบ้าง เขาเสวยทุกขเวทนากล้าหนัก เผ็ดร้อนอยู่ในป่าไม้ที่มีใบเป็นดาบนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป รอบๆ ป่าไม้ที่มีใบเป็นดาบนั้น มีแม่น้ำอันมีน้ำเป็นด่างขนาดใหญ่อยู่ เขาตกลงในแม่น้ำอันมีน้ำเป็นด่างนั้น จึงลอยไปในแม่น้ำอันมีน้ำอันเป็นด่างนั้น ตามกระแสบ้าง ทวนกระแสบ้าง ตามกระแสและมวนกระแสบ้าง เขาเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อนอยู่ในนรกแม่น้ำอันมีน้ำเป็นด่างนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่จบสิ้นไป (ม.อุ. (ไทย) 14/269/315-316)

คูถนรก สัตว์นรก ที่มาเกิดได้รับทุกขเวทนาอยู่ในนรกอุจจาระเน่า โดยถูกหนอนกัดกินทั้งเนื้อและกระดูกตลอดจนอวัยวะภายในทั้งหมด จนกว่าจะสิ้นกรรมชั่วของตน ส่วนกุกกุฬนรก สัตว์นรกที่มาเกิดได้รับทุกขเวทนา โดยถูกเผาด้วยขี้เถ้าร้อนระอุ ร่างกายไหม้ยับย่อยละเอียดเป็นจุณ จนกว่าจะสิ้นกรรมชั่วของตน

จากที่กล่าวมาแล้วสรุปได้ว่า ผู้ที่ไม่อยู่ในศีลในธรรมมีชีวิตไม่ราบรื่น ตายไปแล้วตกนรกภายใน 8 ขุม มีอุสสทนรก 16 ขุมเป็นบริวารล้อมรอบ สัญชีวนรก ผู้ไปเกิดแม้ว่าจะได้รับโทษจนตายแล้ว ก็กลับฟื้นขึ้นมาอีก กาฬปุตตนรก ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ถูกลงโทษโดยยมบาลพากันเอาเส้นเหล็กเเดงลุกเป็นไฟมาตีให้เป็นเส้นดำเข้าตามร่างกาย แล้วก็เอาเลื่อยนรกมาเลื่อย สังฆาฏนรก ผู้ไปเกิดในนรกขุมนี้ ถูกลงโทษโดยถูกภูเขาเหล็กแดงกลิ้งไปกลิ้งมากลิ้งเข้าหากัน โรรุวมหานรก มีดอกบัวเหล็กใหญ่ไฟลุกพุ่งออกมาจากกลีบตลอดเวลา มหาโรรุวนรก ถูกลงโทษโดยวิธีให้ยืนแข็งทื่ออยู่ในดอกบัวเหล็กบานสะพรั่ง ใกล้ ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้นไฟลุก กลีบดอกบัวก็บาดเข้าไปในเนื้อ หมานรกก็คอยกินเนื้อหนัง รุมแทะเหลือแต่กระดูก ร่างกายก็รวมเข้าเป็นกายใหม่ ตาปนรก ถูกลงโทษโดยวิธีถูกย่างให้ร้อนบนปลายหลาวเหล็ก แต่ก็ตายไม่ได้ มหาตาปนนรก มีกำแพงกั้นทุกด้านมีไฟพุ่งเข้ามาทุกด้าน ไฟนี้ มีความร้อนแรงมากไฟพุ่งมาทุกทิศ อเวจีมหานรก นรกขุมนี้มีอายุ 1 กัป การลงโทษ สัตว์นรกยืนแล้วมีกำแพงทั้ง 6 ด้าน ไฟก็พุ่งมาทั้ง 6 ทิศ กาฬสุตตนรกนั้น มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยกว้างยาวและลึกได้ 100 โยชน์ นาน 1,000 ปีนรก เวตรณีนรก มีแม่น้ำใสสะอาด แต่เป็นน้ำกรด มีต้นหวายใหญ่มีหนามยาวแหลมคม โลหกุมภี ในนรกขุมนี้ มีหม้อเหล็กขนาดใหญ่มีน้ำร้อนเดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา คูถนรก สัตว์นรกที่มาเกิดในนรกอุจจาระเน่า ถูกหนอนกัดกินทั้งเนื้อและกระดูกตลอดจนอวัยวะภายใน กุกกุฬนรก มีโทษถูกเผาด้วยขี้เถ้าร้อนระอุ

คำสอนเรื่องนรกในพระไตรปิฎก

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า  บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการย่อมดำรงอยู่ในนรกเหมือนถูกนำไปฝังไว้ ธรรม 4 ประการ อะไรบ้าง คือ 1. ฆ่าสัตว์ 2. ลักทรัพย์ 3. ประพฤติผิดในกาม 4. พูดเท็จ . . . การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การพูดเท็จ และการคบหาภรรยาของผู้อื่น เรากล่าวว่า เป็นกรรมเศร้าหมอง บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่สรรเสริญเลย  (อํ.จตุกก. (ไทย) 21/64/108)

การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การลักทรัพย์ การพูดเท็จ และการคบชู้ภรรยาของผู้อื่น กรรมทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ตกนรกในขุมที่แตกต่างกันไป ตามความหนักเบาของกรรมทำตนได้ทำไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์

ในเทวทูตสูตร ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า

ภิกษุทั้งหลาย เปลวไฟแห่งมหานรกนั้น ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศตะวันออกจรดฝาด้านทิศตะวันตก ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศตะวันตกจรดฝาด้านทิศตะวันออก ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศเหนือจรดฝาด้านทิศใต้ ลุกโพลงขึ้นจากฝาด้านทิศใต้จรดฝาด้านทิศเหนือ ลุกโพลงขึ้นจากเบื้องล่างจรดเบื้องบน ลุกโพลงขึ้นจากเบื้องบนจรดเบื้องล่าง เขาเสวยทุกขเวทนากล้าอย่างหนัก เผ็ดร้อนอยู่ในมหานรกนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นไป (ม.อุ. (ไทย) 14/268/314-315)

ในนรกแต่ละขุมนั้น มีไฟลุกไหม้ตลอดเวลา และมีเคยสักครั้ง ไม่ว่าจะนานสักเพียงใด ไฟก็ยังลุกไหม้อยู่ ซึ่งไฟนั้นจะพวยพุ่งออกมาทุกทิศทาง เผาเหล่าผู้ไปเกิดในนรกนั้นจนกว่าจะชดใช้กรรมที่ได้ทำไว้ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์

. . . ตายไปแล้วเจอยมบาล พระยายมราชถามว่า ตอนมีชีวิตอยู่เคยเห็นเทวทูตไหม เทวทูตที่หนึ่งเป็นอย่างไร เขาตอบไม่ได้ ยมบาลต้องชี้แจงว่า เทวทูตที่หนึ่งคือเด็กเกิดใหม่ ที่สองคือคนแก่ ที่สามคือคนเจ็บ ที่สี่คือคนถูกลงโทษทัณฑ์ลงอาญา ที่ห้าคือคนตาย ยมบาลต้องอธิบายว่าท่านเคยเห็นไหม เคยเห็นแล้วท่านเคยคิดบ้างไหม เคยได้ความคิดไหม มีความสลดใจบ้างไหม ในการที่จะต้องเร่งทำความดี ท่านเคยรู้สึกบ้างไหม ไม่เคยเลย ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องของตัวเองทำ กรรมตนทำเอง ก็ต้องได้รับโทษ มีการลงอาญา เขาเรียกว่า กรรมกรณ์ เป็นวิธีลงโทษในนรกด้วยประการต่าง ๆ . . . (ม.อุ. (ไทย) 14/261-271/309-318)

ผู้ที่ไปเกิดในนรกนั้น ยมบาลจะถาม เพื่อทราบการกระทำในเมืองมนุษย์ว่า รู้เรื่อง คนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนทำความผิด และคนตาย หรือเปล่า หากไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยก็จะถูกลงโทษตามกรรมที่ทำไว้

ในสามัญญวรรค พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า

ภิกษุทั้งหลาย บุคคลประกอบด้วยธรรม 10 ประการ ย่อมดำรงอยู่ในนรก เหมือนถูกนำไปฝังไว้ ธรรม 10 ประการ อะไรบ้าง คือ 1. เป็นผู้ฆ่า, 2. เป็นผู้ลักทรัพย์, 3. เป็นผู้ประพฤติผิดในกาม, 4. เป็นผู้พูดเท็จ, 5. เป็นผู้ส่อเสียด, 6. เป็นผู้พูดหยาบ, 7. เป็นผู้พูดเพ้อเจ้อ, 8. เป็นผู้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา, 9. เป็นผู้มีจิตพยาบาท, 10. เป็นมิจฉาทิฏฐิ (องฺ.ทสก. 24/221/369)

. . . ธรรม 40 ประการ ย่อมดำรงอยู่ในนรก . . . 1. ตนเองเป็นผู้ฆ่าสัตว์, 2. ชักชวนผู้อื่นให้ฆ่าสัตว์, 3. เป็นผู้พอใจในการฆ่าสัตว์, 4. สรรเสริญการฆ่าสัตว์, 5. ตนเองเป็นผู้ลักทรัพย์, 6. ชักชวนผู้อื่นให้ลักทรัพย์, 7. เป็นผู้พอใจการลักทรัพย์, 8. สรรเสริญการลักทรัพย์, 9. ตนเองเป็นผู้ประพฤติผิดในกาม, 10. ชักชวนผู้อื่นให้ประพฤติผิดในกาม, 11. เป็นผู้พอใจการประพฤติผิดในกาม, 12. สรรเสริญการประพฤติผิดในกาม, 13. ตนเองเป็นผู้พูดเท็จ, 14. ชักชวนผู้อื่นให้พูดเท็จ, 15. เป็นผู้พอใจในการพูดเท็จ, 16. สรรเสริญการพูดเท็จ, 17. ตนเองเป็นผู้พูดส่อเสียด, 18. ชักชวนผู้อื่นให้พูดส่อเสียด, 19. เป็นผู้พอใจในการพูดส่อเสียด, 20. สรรเสริญการพูดส่อเสียด, 21. ตนเองเป็นผู้พูดคำหยาบ, 22. ชักชวนผู้อื่นให้พูดคำหยาบ, 23. เป็นผู้พอใจการพูดคำหยาบ, 24. สรรเสริญการพูดคำหยาบ, 25. ตนเองเป็นผู้พูดเพ้อเจ้อ, 26. ชักชวนผู้อื่นให้พูดเพ้อเจ้อ, 27. เป็นผู้พอใจการพูดเพ้อเจ้อ, 28. สรรเสริญการพูดเพ้อเจ้อ, 29. ตนเองเป็นผู้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา, 30. ชักชวนผู้อื่นให้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา, 31. เป็นผู้พอใจความเพ่งเล็งอยากได้ของเขา, 32. สรรเสริญความเพ่งเล็งอยากได้ของเขา, 33. ตนเองเป็นผู้มีจิตพยาบาท, 34. ชักชวนผู้อื่นให้มีจิตพยาบาท, 35. เป็นผู้พอใจความมีจิตพยาบาท, 36. สรรเสริญความมีจิตพยาบาท, 37. ตนเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ, 38. ชักชวนผู้อื่นให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ, 39. เป็นผู้พอใจความเป็นมิจฉาทิฏฐิ, 40. สรรเสริญความเป็นมิจฉาทิฏฐิ (องฺ.ทสก. (ไทย) 24/224/375-377)

ผู้คนทั้งหลายที่ประพฤติ ปฏิบัติแต่ความชั่วเหล่านี้ ดังที่กล่าวมาแล้วล้วนแต่ต้องตกนรกขุมต่างๆ ตามวาระกรรมของตน ซึ่งนรกแต่ละขุมมีอายุนานแตกต่างกันเป็นที่ทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก

จากข้อความที่กล่าวมาแล้วแสดงให้เห็นว่า การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การลักทรัพย์ การพูดเท็จ และการคบชู้ภรรยาของผู้อื่น กรรมทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ตกนรกในขุมที่แตกต่างกันไป ตามความหนักเบาของกรรมทำตนได้ทำไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ นรกแต่ละขุมนั้น มีไฟลุกไหม้ตลอดเวลา และมีเคยสักครั้ง ไม่ว่าจะนานสักเพียงใด ไฟก็ยังลุกไหม้อยู่ ผู้ที่ไปเกิดในนรกนั้น ยมบาลจะถาม เพื่อทราบการกระทำในเมืองมนุษย์ว่า รู้เรื่อง คนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนทำความผิด และคนตาย หรือเปล่า หากไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยก็จะถูกลงโทษตามกรรมที่ทำไว้ ผู้คนทั้งหลายที่ประพฤติปฏิบัติแต่ความชั่วเหล่านี้ ดังที่กล่าวมาแล้วล้วนแต่ต้องตกนรกขุมต่างๆ ตามวาระกรรมของตน ซึ่งนรกแต่ละขุมมีอายุนานแตกต่างกันเป็นที่ทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก

-------------------------------------------------------

 

เอกสารและสิ่งอ้างอิง

 

กรมศิลปากร. 2528. โลกบัญญัติของพระธัมมโฆษเถระ.  กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์อักษรไทย.

พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.  2539.  กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง.  2521.  กรุงเทพมหานคร: กรมศาสนา.

พระเทพมุนี (วิลาศ  ญาณวโร).  2527.  วรรณกรรมไทยเรื่องภูมิวิลาสินี.  กรุงเทพมหานคร:

โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม.

---------------.  2527.  กรรมทีปนี.  กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สุภา.

พระเทพเวที (ประยุทธ์  ปยุตฺโต).  2531.  กรรมและนรกสำหรับคนรุ่นใหม่.  กรุงเทพมหานคร:

อมรินทร์พริ้นติ้ง.

ราชบัณฑิตยสถาน.  (2525).  พจนานุกรมฉบับราชบัณฑตยสถาน พ.ศ. 2525. กรุงเทพมหานคร:

อักษรเจริญทัศน์.

 

 

 

 

โลกทัศน์ทางพุทธศาสนา

Amazing🤩 Our Second Day We Stay In The Deep Sea And Caught Lot Of Tuna F...#HTML