ประวัติ พระขทิรวนิยเรวตเถระ
พระขทิรวนิยเรวตเถระ นามเดิม เรวตะ
แต่เมื่อบวชแล้วท่านพำนักอยู่ในป่าไม้ตะเคียน จึงมีชื่อว่า ขทิรวนิยเรวตะ บิดาชื่อ
วังคันตพราหมณ์ มารดาชื่อ นางสารีพราหมณี เกิดที่บ้านนาลันทา แคว้นมคธ
เป็นคนวรรณะพราหมณ์ ชีวิตก่อนบวชของ เรวตะ เป็นบุตรชายคนเล็กของครอบครัว
เหลืออยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นบวชกันหมดแล้ว บิดาและมารดาจึงหาวิธีผูกมัด
โดยจัดให้แต่งงานตั้งแต่มีอายุได้ ๘ ขวบ
มูลเหตุของการบวชในพระพุทธศาสนา ครั้นถึงวันแต่งงาน
บิดาและมารดาแต่งตัวให้เรวตะอย่างภูมิฐาน นำไปยังบ้านของนางกุมาริกา ขณะทำพิธีมงคลสมรสรดน้ำสังข์
ได้นำญาติผู้ใหญ่ทั้ง ๒ ฝ่ายไปอวยพร ถึงลำดับยายแห่งนางกุมาริกา ซึ่งมีอายุ ๑๒๐ ปี
เข้ามาอวยพร คนทั้งหลายให้พรคู่สมรสทั้งสองว่า
ขอให้มีอายุมั่นขวัญยืนเหมือนกับยายนี้ เรวตะได้ฟังดังนั้น มองดูคุณยาย ผมหงอก
ฟันหัก หนังเหี่ยว หลังโกง เนื้อตัวสั่นเทา
รู้สึกสลดใจกับการที่ตนเองจะต้องอยู่ในสภาพเช่นนั้นในวันหนึ่งข้างหน้า
เมื่อเสร็จพิธีญาติจึงพาเขากลับบ้าน
ในระหว่างทางเขาได้หาอุบายหนีไปยังสำนักของภิกษุผู้อยู่ป่า ขอบรรพชากับท่าน
ภิกษุนั้นก็จัดการบวชให้ เพราะพระสารีบุตรได้สั่งไว้ว่า ถ้าน้องชายของท่านมาขอบวชให้บวชได้เลย
เพราะโยมบิดา และมารดาของท่านเป็นมิจฉาทิฏฐิ
การบรรลุธรรม สามเณรเรวตะ
ครั้นอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ
เรียนกรรมฐานในสำนักอุปัชฌาย์อาจารย์แล้ว ได้ไปอาศัยอยู่ในป่าไม้ตะเคียน
บำเพ็ญเพียรภาวนา ในไม่ช้าก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระขีณาสพอยู่จบพรหมจรรย์
งานประกาศพระศาสนา พระเรวตเถระนี้
แม้ตำนานไม่ได้กล่าวว่า ท่านได้ใครมาเป็นสัทธิวิหาริกและอันเตวาสิกก็ตาม
แต่ปฏิปทาเกี่ยวกับการอยู่ป่าของท่าน
ก็นำมาซึ่งความเลื่อมใสของผู้ที่ได้รู้จักในสมัยนั้น
และได้ศึกษาประวัติของท่านในภายหลังต่อมา
แม้แต่องค์พระศาสดาและมหาสาวกยังไปเยี่ยมท่านถึงป่าไม้ตะเคียนที่ท่านจำพรรษาอยู่
เอตทัคคะ เพราะท่านพระขทิรวนิยเรวตเถระนี้
ชอบอาศัยอยู่ในป่า
องค์พระศาสดาจึงทรงตั้งไว้ในตำแหน่งอันเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่า
บุญญาธิการ แม้พระขทิรวนิยเรวตเถระนี้
ก็ได้เห็นพระปทุมุตตรศาสดาทรงสถาปนาภิกษุรูปหนึ่งในตำแหน่งผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่า
สนใจอยากได้ตำแหน่งเช่นนั้นบ้าง จึงได้สร้างกุศลมีทานเป็นต้น
อันพระทศพลทรงพยากรณ์ว่าจะสำเร็จแน่นอน ในกาลแห่งพระสมณโคดม
จึงได้สร้างสมความดีอีกช้านาน แล้วได้สมดังปณิธานที่ตั้งไว้ทุกประการ
ธรรมวาทะ ตั้งแต่อาตมภาพ
สละเรือนออกบวช ยังไม่เคยรู้จักความคิดอันเลวทราม ประกอบด้วยโทษ
ไม่เคยรู้จักความคิดว่า ขอสัตว์เหล่านี้จงเดือดร้อน จงถูกฆ่า จงประสบความทุกข์
อาตมภาพรู้จักแต่การเจริญเมตตาจิต อย่างหาประมาณมิได้ ซึ่งอาตมภาพค่อย ๆ
สะสมมาโดยลำดับ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
การนิพพานของพระขทิรวนิยเรวตเถระ
ครั้นสำเร็จพระอรหัตผลแล้ว ได้ปฏิบัติหน้าที่ของพระสงฆ์เพื่อประโยชน์
เพื่อความสุขแก่มหาชนตามสมควรแก่เวลา แล้วได้นิพพานจากไปตามสัจธรรมของชีวิต
------------------------------------------------
เอกสารและสิ่งอ้างอิง
คณาจารย์เลี่ยงเชียงจงเจริญ.
วิชาอนุพุทธประวัติ ๘๐ องค์ ฉบับสมบูรณ์, พ.ศ.๒๕๔๓.
https://sites.google.com/site/dmamatri/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น