ประวัติ พระนันทกเถระ
พระนันทกเถระ นามเดิม นันทกะ บิดา และมารดา
ไม่ปรากฏนาม เป็นพราหมณ์ ชาวเมืองสาวัตถี ชีวิตก่อนบวช พระนันทกเถระ อรรถกถาต่างๆ
ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตฆราวาสของท่าน
มูลเหตุของการบวชในพระพุทธศาสนา นันทกมาณพ
ได้ยินกิตติศัพท์ของพระศาสดาว่า เป็นพระอระหันต์ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง
ทรงแสดงธรรมไพเราะ ชี้แจงประโยชน์ในโลกนี้และประโยชน์ในโลกหน้าได้อย่างแจ่มแจ้ง
วันหนึ่ง เมื่อมีโอกาสจึงไปเฝ้าพระศาสดา ได้ฟังพระธรรมเทศนา
เกิดศรัทธาปรารถนาจะบวช จึงทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ๆ ได้ทรงบวชให้เขาตามความประสงค์
การบรรลุธรรมของพระนันทกเถระ
ครั้นบวชแล้ว ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและพากเพียร ปฏิบัติ ในวิปัสสนากรรมฐาน
ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นผู้ชำนาญในญาณระลึกรู้บุพเพนิวาส
งานประกาศพระศาสนา ในตำนานไม่ได้บอกว่าท่านได้ใครมาเป็นสัทธิวิหาริกและอันเตวาสิกบ้าง
บอกว่า ท่านเป็นผู้ฉลาดในการสอนนางภิกษุณี มีเรื่องเล่าว่า
นางมหาปชาบดีโคตมีได้พาภิกษุณี ๕๐๐ รูป มาฟังธรรม
พระศาสดาจึงมอบให้ภิกษุเปลี่ยนกันแสดงธรรมแก่ภิกษุณี ภิกษุรูปอื่นแสดงธรรม
ภิกษุณีทั้งหลายก็ไม่ได้บรรลุอะไร เมื่อถึงวาระของพระนันทกะแสดงธรรม
ภิกษุณีเหล่านั้นจึงได้บรรลุอรหัตผล
เอตทัคคะ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัยเหตุที่ท่านสามารถแสดงธรรมให้แก่ภิกษุณีทั้งหลายได้บรรลุอรหัตผลนี้เอง
จึงได้ทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่งอันเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ให้โอวาทแก่นางภิกษุณี
บุญญาธิการ แม้พระนันทกเถระนี้
ก็ได้สร้างความดีอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมานาน จนถึงกาลแห่งพระปทุมุตตรศาสดา
ได้เห็นพระศาสดาทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่ง
ในตำแหน่งอันเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ให้โอวาทนางภิกษุณี
จึงทำความดีแล้วปรารถนาตำแหน่งนั้น อันพระศาสดาทรงพยากรณ์ว่าจะได้สมประสงค์ในสมัยพระพุทธองค์ทรงพระนามว่าโคดม
และก็ได้สมจริงทุกประการ
ธรรมวาทะ ม้าอาชาไนยชั้นดีพลาดล้มลงไป
ยังกลับลุกขึ้นยืนใหม่ได้ ครั้นได้ความสลดใจ ไม่ย่อท้อ
ย่อมแบกภาระได้หนักยิ่งขึ้นอีก ฉันใด ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้า
ว่าเป็นบุรุษชาติอาชาไนย ฉันนั้น เหมือนกัน
การนิพพานของพระนันทกเถระ
ได้บรรลุพระอรหัตผลอันเป็นประโยชน์สูงสุดของตน
แล้วได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ผู้ดำรงพระพุทธศาสนา อยู่มาตามสมควรแก่เวลาของท่าน
สุดท้ายได้ปรินิพพานจากไป
--------------------------------------------------------
เอกสารและสิ่งอ้างอิง
คณาจารย์เลี่ยงเชียงจงเจริญ.
วิชาอนุพุทธประวัติ ๘๐ องค์ ฉบับสมบูรณ์, พ.ศ.๒๕๔๓.
https://sites.google.com/site/dmamatri/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น